สาธารณสุขร่วมมือกับศึกษาธิการ ยกระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้อสม.ทั่วประเทศ 850,000 คน ได้เรียนระบบการศึกษานอกโรงเรียนเพื่อให้จบขั้นต่ำมัธยมปลาย  สามารถนำประสบการณ์ทำงานมาเทียบโอนหมวดวิชาได้ มั่นใจเมื่อ อสม.มีความรู้ดีขึ้น จะทำให้งานสาธารณสุขไปโลด  โดยสธ.ทุ่มงบประมาณหนุนปีแรกกว่า 3 ล้านบาท   

วันนี้ (16 กันยายน 2553) ที่โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ ดร.พรรณสิริ   กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การจัดการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขหรืออสม.  ระหว่าง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจัดการศึกษาให้แก่   อสม. ให้ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่ต่ำกว่า 15 ปี ตามเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการในระบบการศึกษานอกโรงเรียนหรือกศน.  และร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับกลุ่มอสม.เพื่อนำไปเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป  
ดร.พรรณสิริกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเปิดโอกาสให้คนไทยได้รับการศึกษาจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน  15 ปี เนื่องจากการศึกษาเป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และจะส่งผลถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง ครอบครัว ชุมชนและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ขณะเดียวกันรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมบทบาท อสม. เชิงรุก ให้เป็นผู้นำการปฏิบัติงานพัฒนาสุขภาพในชุมชน ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีอสม. 987,019 คน ผลการสำรวจพบว่าร้อยละ 80 หรือ 850,000 คน ยังจบการศึกษาไม่ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่ขณะเดียวกันสถานการณ์ทางสุขภาพ โดยเฉพาะโรคต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว อันเป็นผลมาจากการพัฒนาด้านสังคม เศรษฐกิจของไทยรวมทั้งระดับโลกด้วย   กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ เร่งติดอาวุธทางปัญญาให้อสม.มีความรู้และก้าวทันการเปลี่ยนแปลง มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสามารถจัดการปัญหาสุขภาพได้ทันเหตุการณ์  ซึ่งได้จัดประชุมชี้แจงทุกจังหวัดครบทั้ง 4 ภาคแล้ว
 ดร.พรรณสิริกล่าวต่ออีกว่า ตามข้อตกลงบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุน อสม. ในหมู่บ้านต่างๆ เข้ารับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานคือ มัธยมศึกษาตอนปลาย โดยในปีงบประมาณ 2554 ได้จัดสรรงบกว่า 3ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเรียน อสม.รุ่นแรก จำนวน 3แสนคนทั่วประเทศ  และอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นครูพี่เลี้ยงประจำกลุ่มด้วยจำนวน 3,260คน   รวมทั้งจะพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้เรียน โดยกระทรวงศึกษาธิการ จะทำหน้าที่จัดการศึกษาให้แก่    อสม. สนับสนุนวิทยากรฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรสาธารณสุขในการจัดการศึกษา สนับสนุนสื่อต่างๆในการจัดการเรียนการสอน จัดทำหลักสูตรวิชาเลือกเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย และร่วมนิเทศ ติดตาม ประเมินผลร่วมกัน   
อสม.ที่เรียนกศน.ครั้งนี้ สามารถนำภารกิจงานสุขภาพที่ปฏิบัติประจำ มาใช้เทียบโอนหมวดวิชาโดยไม่ต้องเรียนใหม่อีกแต่ละหลักสูตรจะใช้เวลาเรียนเพียง 6เดือนถึง 1ปีครึ่ง หากเป็น อสม.ทั่วไปสามารถนำผลงานเทียบโอนได้ 2-4หมวด ถ้าเป็น อสม.ดีเด่นเทียบโอนได้ 3-5หมวด เรียนจบภายใน 1ปีครึ่ง หากเป็นอสม.ดีเด่น จะได้สิทธิพิเศษ เทียบโอนวิชาเลือกได้ 3 หมวดวิชาใช้เวลาเพียง 1 ปี เมื่อเรียนจบชั้นม. 6 สามารถนำวุฒิไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาหรือหลักสูตรระยะสั้นของวิทยาลัยชุมชนต่างๆได้อีก ดร.พรรณสิริ กล่าว    
 ***************************************** 16 กันยายน 2553


   
   


View 9    16/09/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ