พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงประทานพระดำรัสในการเปิดประชุมสัมมนาพัฒนาคุณธรรม และจริยธรรม บุคลากรกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2553 ทรงให้ความสำคัญจริยธรรม ว่าช่วยให้คิด พูด ทำแต่ในสิ่งที่ดีเหมาะสม มีน้ำใจไมตรี เสียสละส่วนรวมด้วยความบริสุทธิ์ใจ 

          วันนี้ (8 กันยายน 2553)  เวลา 15.15 น. ณ โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ มหานาค กรุงเทพมหานคร  พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดประชุมสัมมนาพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม ของกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2553 ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 8-10 กันยายน 2553 จัดโดยแก้วกัลยาสิกขาลัย สถาบันพระบรมราชชนก ภายใต้หัวข้อเรื่อง “สติรู้ตัว ปัญญารู้คิด จิตเมตตา สามัคคีเป็นเลิศ เชิดชูคุณธรรม” มีบุคลากรสาธารณสุข สมาชิกชมรมจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ร่วมประชุมประมาณ 2,000 คน เพื่อสร้างบรรทัดฐาน วัฒนธรรม การปรับเปลี่ยนแนวคิด เจตคติแก่บุคลากรสาธารณสุข ทำให้วัฒนธรรมองค์กรเข้มแข็ง ให้บริการประชาชนด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ โดยมีนางนำพร วานิชชัง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารระดับสูง และข้าราชการ เฝ้ารับเสด็จ
          ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงประทานพระดำรัสในการเปิดการประชุมว่า จริยธรรมคือธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ มีความสำคัญอย่างมากต่อการดำรงชีวิต การประกอบการงานอาชีพ รวมทั้งการอยู่รวมกันในสังคม เป็นสิ่งละเอียดอ่อนอยู่ภายในจิตใจของบุคคล ที่ไม่อาจควบคุมได้ด้วยกฎระเบียบหรือข้อบังคับใดๆ แต่สามารถควบคุมได้ด้วยจิตสำนึกของบุคคลนั้นๆเอง ทำให้สามารถปฏิบัติหักห้ามความคิด ยับยั้งคำพูด หยุดการกระทำที่ไม่สมควร ให้คิด พูด ทำแต่ในทางที่เหมาะสม มีน้ำใจไมตรีเอื้อเฟื้อเกื้อกูลผู้อื่น รู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือส่วนรวมด้วยความบริสุทธิ์ใจ การจัดประชุมสัมมนาพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้แก่บุคลากรสาธารณสุขได้อย่างน่าชื่นชมยิ่ง เนื่องจากจะช่วยส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจทางวิชาการเกี่ยวกับจริยธรรม นำไปเป็นหลักในการประพฤติตน และปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาองค์กรให้เข้มแข็ง ควบคู่กับการพัฒนาด้านวิชาการที่มีประสิทธิภาพ 
          นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นอกจากกระทรวงสาธารณสุขจะปลูกฝังจริยธรรมแก่บุคลากรแล้ว ยังได้ขยายผลสู่ประชาชนทั่วไปด้วย โดยจัดทำโครงการจิตอาสาในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อดึงวัฒนธรรมสังคมไทยที่มีความเอื้อเฟื้อ ห่วงใยกัน มาช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ป่วยในโรงพยาบาลทุกแห่งตามศักยภาพที่จะช่วยได้ โดยเฉพาะเยาวชนจะช่วยให้เป็นผู้มีเมตตา มีจิตใจอ่อนโยน และมีความเสียสละ ช่วยเหลือสังคมต่อไป สำหรับกลุ่มบุคลากรสาธารณสุข ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์พัฒนาคุณธรรมจริยธรรมบุคลากรสาธารณสุขประมาณ 2 แสนคน ในปี 2550-2554 เน้น 5 เรื่องใหญ่ ได้แก่ การเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามให้เป็นวิถีชีวิต การส่งเสริมต้นแบบทางวัฒนธรรม การสร้างวัฒนธรรมองค์กร การสร้างเสริมคุณธรรมและระบบธรรมาภิบาลในองค์กร การพัฒนาการมีส่วนร่วม และการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายและทุกภาคส่วนของสังคม โดยส่งเสริมให้โรงพยาบาลทุกจังหวัดตั้งชมรมจริยธรรม ขณะนี้ดำเนินการได้แล้ว 600 ชมรม ครอบคลุมทุกอำเภอ           
************************    8 กันยายน 2553


   
   


View 9    08/09/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ