รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอกงไกรลาศและอำเภอคีรีมาศ    จ.สุโขทัย มอบถุงยังชีพ และยาสามัญประจำบ้าน รวม 2,938 ชุด รองเท้าบู๊ทป้องกันโรคฉี่หนู 2,000 คู่ เผยขณะนี้มีผู้ป่วยแล้ว 10,000 ราย พบโรคน้ำกัดเท้ามากที่สุด พร้อมสำรองยาอีก 5 แสนชุดรับมือน้ำท่วม ย้ำเตือนประชาชนอย่าให้น้ำท่วมกระเด็นเข้าตา อาจทำให้เป็นโรคตาแดงได้ 

          วันนี้ (8 กันยายน 2553) ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์พูลสิทธิ์ ศีติสาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอคีรีมาศ และอำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัยโดยได้มอบถุงยังชีพ ยาสามัญประจำบ้าน ให้ผู้ประสบภัย 5 จุดจำนวน 2,938 ชุด ดังนี้ ที่วัดไผ่ล้อม หมู่ 5 ต.บ้านป้อม ที่วัดกลาง หมู่ 5 ต.ทุ่งหลวง อ.คีรีมาศ และที่หอประชุมอำเภอคีรีมาศ มอบถุงยังชีพและยาสามัญประจำบ้าน จุดละ 400 ชุด ที่วัดหางตลาด หมู่ 3 ต.ท่าฉนวน จำนวน 1,073 ชุด และที่วัดบึงครอบศรัทธาราม หมู่ 1 ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ จำนวน 665 ชุด พร้อมทั้งมอบรองเท้าบู้ทเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู 2,000 คู่ ถุงดำใส่ขยะสิ่งปฏิกูลต่างๆ 500 กิโลกรัมแก่ผู้ประสบภัยด้วย 
             ดร.พรรณสิริ กล่าวว่า     หลังจากที่มีน้ำท่วมขังตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2553 เป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยได้ออกให้บริการแล้ว 150 หน่วย รวม 170 ครั้ง พบผู้ป่วยกว่า 10,000 ราย เป็นโรคน้ำกัดเท้าอันดับหนึ่ง รองลงมาคือไข้หวัดทั่วไปอาการไม่รุนแรง คาดว่าหากสถานการณ์น้ำท่วมขังต่อเนื่องเป็นเวลานานจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนังผื่นคัน เครียด วิตกกังวล กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกจังหวัดจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ซึ่งจะดูแลรักษาการเจ็บป่วยทั่วไป ดูแลผลกระทบด้านสุขภาพจิต และป้องกันควบคุมโรคติดต่ออย่างต่อเนื่อง จุดใดที่รถไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่จะใช้เรือแทนเพื่อไปให้บริการถึงบ้าน โดยส่วนกลางได้สำรองยาสามัญประจำบ้านไว้ 500,000 ชุด เพื่อสนับสนุนจังหวัดที่ประสบภัย เมื่อวานนี้ได้ส่งยาไปให้ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย สระบุรี และสุโขทัยอีกรวม 12,000 ชุด
          ดร.พรรณสิริกล่าวต่อไปว่า สำหรับจ.สุโขทัย ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการตั้งแต่น้ำเริ่มท่วมวันที่ 29 กรกฎาคม จนถึง 7 กันยายน 2553 แจกยาสามัญประจำบ้านไปแล้ว 10,000 ชุด รองเท้าบู๊ท 800 คู่ มุ้งชุบน้ำยาเคมีป้องกันยุงกัด 250 หลัง มีผู้ป่วย 1,500 ราย เริ่มพบโรคตาแดง 13 ราย และโรคอุจจาระร่วง 15 ราย ซึ่งมีสาเหตุมาจากน้ำสกปรก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ควบคุมสถานการณ์ ไม่มีการระบาดเพิ่ม
          ที่น่าห่วงคือ โรคตาแดง ซึ่งติดต่อกันง่ายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เกิดจากน้ำสกปรกเข้าตา ในการป้องกัน ขอให้หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำที่ท่วมขัง โดยเฉพาะเด็กๆ เนื่องจากมีความสกปรกสูง มีเชื้อโรคที่มาจากสิ่งปฏิกูลต่างๆปะปนมาจำนวนมาก หากน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา ควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด ระวังอย่าให้แมลงหวี่ตอมตา และไม่ควรใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยตาแดง เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว และควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ ซึ่งจะสามารถลดการติดเชื้อได้ร้อยละ 90 เนื่องจากโรคนี้ไม่ติดต่อทางการสบสายตา อย่างที่มีประชาชนบางกลุ่มเชื่อ แต่ติดต่อกันโดยตรงจากการสัมผัสขี้ตาผู้ป่วยที่ติดมากับมือ และหากมีอาการเจ็บตา ตาแดง มีขี้ตามาก ควรรีบไปพบแพทย์ในหน่วยแพทย์เคลื่อนที่หรือที่สถานีอนามัยใกล้บ้าน ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เนื่องจากอาจไม่ได้ผลและอาจทำให้เกิดอาการอักเสบรุนแรงมากขึ้น ดร.พรรณสิริ กล่าว*** ************* 8 กันยายน 2553


   
   


View 14    08/09/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ