วันนี้ (6 กันยายน 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมผู้บริหารถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ว่า สถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 – 2 กันยายน 2553 มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสมทั่วประเทศ 70,902 ราย เสียชีวิต 87รายโดยในสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 7,374 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 10 ราย ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 ราย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ปัตตานี เชียงใหม่ และกำแพงเพชร จังหวัดละ 1รายซึ่งอัตราผู้ป่วยสะสมเมื่อเทียบช่วงระยะเวลาเดียวกันระหว่างปี 2552 กับปี 2553พบว่าปีนี้เพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 117.23 หรือประมาณกว่า 1 เท่าตัว
ทั้งนี้กรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์โรคเป็นรายอำเภอ ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่มีความละเอียดและใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป พบ 10 อำเภอที่มีการแพร่ระบาดสูงสุด ได้แก่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก อ.มะขาม จ.จันทบุรี อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี อ.เมือง จ.กระบี่ อ.แม่ระมาด จ.ตาก อ.สะเดา จ.สงขลา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช และอ.จะแนะ จ.นราธิวาส
นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้แต่ละอำเภอที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกหาสาเหตุของการระบาด รายงานให้ทราบภายในวันที่ 13 กันยายน 2553 ทั้งนี้ พบว่าโรคไข้เลือดออกแพร่ระบาดหนักเกือบทุกประเทศของกลุ่มอาเซียน หรือบริเวณเพื่อนบ้าน โดยในที่ประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนที่ผ่าน ได้หารือเพื่อเร่งแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก
ด้านนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัญหาการระบาดขณะนี้เป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม ที่ทำให้พาหะของโรคมีปริมาณมากขึ้นทั่วภูมิภาคนี้ ซึ่งมีภูมิอากาศเหมือนกัน ซึ่งแต่ละประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่เพื่อลดการระบาด และจะดำเนินการเข้มข้นมากขึ้น ขณะนี้การระบาดของไข้เลือดออกนั้นมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ โดยการระบาดนั้นจะสลับๆกันไป จากการวิจัยของต่างประเทศพบว่า เมื่อสภาพอากาศร้อนขึ้น ทำให้วงจรชีวิตของยุงสั้นขึ้น ซึ่งจะทำให้มีปริมาณยุงมากขึ้น และยุงจะมีโอกาสติดเชื้อนำไปแพร่ได้ง่ายขึ้น
********************************************* 6 กันยายน 2553