ปลัดกระทรวงสาธารณสุขชวนประชาชนหันมาออกกำลังกาย กินอาหารรสไม่จัด ลดอาหารเค็ม ไขมันสูงและของหวานเพิ่มการกินผักผลไม้ให้ได้วันละไม่ต่ำกว่า 400กรัมหรือ 4ขีดตามมาตรฐานโลก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพลดการเกิดโรคเรื้อรังเผยผลการตรวจสุขภาพในปี 2553 มีคนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง 4 ล้านคน เป็นทั้ง 2 โรคในคนเดียวกว่า 6 แสนคน    เสี่ยงจะป่วยเพิ่มอีก 4 ล้านคน 

          เช้าวันนี้(29 สิงหาคม 2553)ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานแข่งขัน เดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระสังฆราช 96 พระชันษา โดยมีพลเอกจรัล กุลละวณิชย์ เป็นประธานอำนวยการจัดงานเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระพระสังฆราชสกลมหาปรินายก ในโอกาสมงคล 96 พระชันษา เพื่อหารายได้สมทบการสร้างหอพระประวัติ ที่วัดเทวสังฆาราม ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรีและศูนย์การเรียนรู้ด้านมรดกทางวัฒนธรรมภาคใต้ ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
          นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการมีพฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสมเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ทั้งโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ต้นเหตุสำคัญมาจาก 2เรื่องใหญ่ ได้แก่ กินอาหารไม่เหมาะสม และขาดการออกกำลังกายจากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยที่ไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทั่วประเทศ ในปี 2550 ที่มีจำนวน 9ล้านคนพบว่า เป็นผู้ที่ไม่ออกกำลังกายมากถึง 6ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 67 ขณะเดียวกันยังพบอีกว่าคนที่ขยันออกกำลังกายติดต่อกันมากกว่า 3เดือน จะมีอัตราป่วยเพียงร้อยละ 17ส่วนคนที่ออกกำลังกายติดต่อกันน้อยกว่า 1เดือน จะมีอัตราป่วยสูงกว่าคือร้อยละ 24โดยในภาพรวมพบว่าคนไทยอายุ 11ปีขึ้นไปซึ่งมี 55ล้านคนเป็นผู้ไม่ออกกำลังกายมากถึง 39ล้านคน  
          ส่วนเรื่องการรับประทานอาหาร สำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2552ได้สำรวจพฤติกรรมเสี่ยงสุขภาพคนไทยอายุ 6ปีขึ้นไป พบว่า ร้อยละ 90กินอาหารที่มีไขมัน กว่าครึ่งกินขนมกรุบกรอบโดยพบมากที่สุดในกลุ่มเด็กอายุ 6-14ปี อีกร้อยละ 14กินอาหารฟาสต์ฟูดส์ และร้อยละ 31ดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน พบมากในวัยทำงานอายุ 25-59ปี 
  
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสุขภาพค้นหาโรคเรื้อรังที่เกิดจากพฤติกรรมดังกล่าว ในปี 2553พบคนไทยอายุ 35ปีขึ้นไป ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ไม่ใช่เกิดจากกรรมพันธุ์ และความดันโลหิตสูงรวมกว่า 4ล้านคนและมีน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูงผิดปกติ เสี่ยงจะป่วยเพิ่มอีก 4ล้านคน และมีคนไทยที่เป็นทั้งโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง 635,850คน การร่ำรวยโรค จะทำให้อายุขัยคนไทยสั้นขึ้น เพราะต้องเสียชีวิตไปก่อนถึงวัยอันควร 
ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพประชาชน โดยให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและอสม.เป็นทัพหน้าเดินเครื่องในเรื่องนี้อย่างจริงจังให้ทุกตำบลจัดแผนพัฒนาสุขภาพ กิจกรรมที่จะต้องปลูกฝังให้เกิดเป็นนิสัยก็คือ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30นาที สัปดาห์ละ 3วัน กินอาหารรสไม่จัด ลดอาหารเค็ม ไขมันสูง เช่นกล้วยทอด และลดอาหารรสหวาน เพิ่มการกินผักผลไม้ที่รสไม่หวานมากเช่นมะละกอ ฝรั่ง รวมกันให้ได้วันละไม่ต่ำกว่า 400กรัมหรือ 4ขีดตามมาตรฐานโลก ซึ่งในผักผลไม้จะมีกากใยตามธรรมชาติ นอกจากช่วยให้ระบบการขับถ่ายในร่างกายดีขึ้นแล้ว กากใยดังกล่าวยังช่วยดูดซับไขมันในระบบย่อยอาหารขับถ่ายมาพร้อมอุจจาระด้วย รวมทั้งไม่สูบบุหรี่ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย เนื่องจากทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นตัวเร่งทำลายสุขภาพ 
เรื่องที่น่าห่วงขณะนี้ พบว่า มีคนไทยบางกลุ่ม โดยเฉพาะวัยรุ่น สุภาพสตรี มักนิยมซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดมีกากใย มากินเพื่อลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากเชื่อว่าจะช่วยขับถ่ายดีขึ้น ซึ่งการกินกากใยแคปซูลนี้ ไม่ส่งผลดีในระยะยาว และอาจมีโอกาสอ้วนหรือมีไขมันสะสมในหลอดเลือดได้ เนื่องจากไม่มีการออกกำลังกายเผาผลาญไขมันที่กินเข้าไปในแต่ละวัน นายแพทย์ไพจิตร์กล่าว  
      
  
 นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวในตอนท้ายว่า หากประชาชนไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในอนาคตคนไทยจะเผชิญปัญหาโรคอ้วนและโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูงโรคหัวใจ มะเร็ง โรคเหล่านี้ไม่มีวัคซีนป้องกันเหมือนโรคติดเชื้อและไม่มียารักษาให้หายขาดมีแต่ยาควบคุมอาการ ทุกคนต้องลงทุนเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยตัวเองจึงจะได้ผล ดังนั้นการจัดการแข่งขันเดิน วิ่ง ในวันนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของจุดเริ่มต้นรณรงค์ให้ประชาชนหันมาออกกำลังกาย

 ******************************************************** 29 สิงหาคม 2553



   
   


View 13    29/08/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ