กรมควบคุมโรค เปิดเวที AHC2 ครั้งที่ 10 ที่เชียงใหม่ ดัน 3 วาระหลัก 'ACPHEED-IPC-FETN' เสริมแกร่งรับมือโรคระบาด

       วันนี้ (16 ธันวาคม 2568) กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกลุ่มความร่วมมือด้านสุขภาพอาเซียนกลุ่มที่ 2 (ASEAN Health Cluster 2: AHC2) ได้เปิดการประชุมระดับภูมิภาคครั้งสำคัญ "10th ASEAN Health Cluster 2 Meeting" นับเป็นปีที่ 2 ที่ประเทศไทยดำรงตำแหน่งประธาน เพื่อสานต่อการพัฒนาระบบสุขภาพของภูมิภาคอาเซียนจากภัยคุกคามทางสุขภาพ โดยมีผู้เข้าร่วมจากประเทศสมาชิกอาเซียนและหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partners)รวมกว่า 100 คน ระหว่างวันที่ 16 - 18 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรมเซนทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ โดยมีสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค (OICDDC) เป็นหน่วยงานประสานหลักในการจัดประชุม

       นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ประธานการประชุม กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีที่ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ได้กล่าวต้อนรับ ติมอร์-เลสเต ในฐานะสมาชิกใหม่ของอาเซียนอย่างเป็นทางการ โดยเน้นย้ำถึงความคาดหวังที่จะได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นทางสุขภาพของภูมิภาค

       ปีนี้เป็นปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ AHC2 เนื่องจากเป็นช่วงที่กำลังจะสิ้นสุดแผนงานฉบับปัจจุบัน (พ.ศ. 2564 - 2568) และเป็นโอกาสอันดีในการทบทวนความก้าวหน้า และกำหนดทิศทางของแผนงานฉบับใหม่สำหรับปี พ.ศ. 2569 - 2573 การหารือตลอดสามวันนี้จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดลำดับความสำคัญ เสริมสร้างกลไกระดับภูมิภาค และทำให้มั่นใจว่าการทำงานร่วมกันจะสามารถตอบสนองต่อความท้าทายด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นใหม่ได้อย่างทันท่วงที

       นายเเพทย์มณเฑียร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ ประเทศไทยมุ่งผลักดัน 3 วาระหลักที่ประเทศไทยทำหน้าที่เป็นประเทศนำและประเทศประสานงานหลัก เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาพของอาเซียน ได้แก่

1. ศูนย์ ACPHEED for Response and Risk Communication เน้นเรื่องการขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์ฯ การจัดทำแผนยุทธ์ศาสตร์การดำเนินงาน และการเชื่อมโยงการทำงานของศูนย์ ACPHEED ทั้งสามศูนย์
2. การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ (Infection Prevention and Control: IPC) มุ่งเน้นการเสริมสร้างการดำเนินงานด้านการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลของประเทศสมาชิกอาเซียน และสานความร่วมมือกับประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะ Co-chair ของเครือข่าย IPC ร่วมกับประเทศไทย
3. เครือข่ายนักระบาดวิทยาภาคสนาม (Field Epidemiology Training Network: FETN ผ่านการพัฒนาศักยภาพนักระบาดวิทยาภาคสนามในประเทศสมาชิกอาเซียน และเชื่อมโยงการทำงานกับประเทศจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ในฐานะที่ประเทศไทยทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานของเครือข่ายฯ

       ในการประชุมมีผู้บริหารระดับสูงของหลายหน่วยงานเข้าร่วม อาทิ นายเเพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เเพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค แพทย์หญิงสุชาดา เจียมศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ พร้อมที่ปรึกษาและผู้นำของประเทศสมาชิกเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง

       สำหรับการประชุม ASEN Health Cluster 2 ปีนี้ยังคงยึดถือความร่วมมือดังกล่าวเป็นสำคัญ โดยมุ่งเน้น 1) การส่งเสริมความสามารถในการฟื้นตัวในระบบสุขภาพ 2) การเตรียมความพร้อมและการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข 3) การเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานทางห้องปฏิบัติการและความปลอดภัยทางชีวภาพ 4) การดำเนินการจัดการเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ (AMR) อย่างมีประสิทธิภาพ 5) การดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ และ 6) การสร้างความเข้มแข็งให้กับการจัดการทางด้านสาธารณสุขขณะเกิดภัยพิบัติในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งเพิ่มเติมการหารือแผนสุขภาพระยะ 5 ปีฉบับใหม่ (พ.ศ. 2569 - 2573) จากผลการดำเนินงาน 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2564 - 2568) เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนาระบบสุขภาพอาเซียนให้แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น และพร้อมรับมือกับวิกฤตสุขภาพในอนาคตอย่างเป็นระบบ

********************************
ข้อมูลจาก : สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
วันที่ 16 ธันวาคม 2568