Breadcrumbs Image

สธ.เผยผลสำรวจสุขภาพล่าสุดในปี 52 พบคนไทยอ้วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 โลหิตจางร้อยละ 23



          กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจสุขภาพคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปล่าสุดในปี 2552 พบสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าลดลง แต่อ้วนเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เหตุเพราะไม่ออกกำลังกาย และกินผักผลไม้น้อย ทำให้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงถึงร้อยละ 21 เร่งรณรงค์ปรับแก้พฤติกรรม โดยใช้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเป็นแกนหลัก

บ่ายวันนี้ (9 มิถุนายน 2553) ที่อาคารมติชน กทม. นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “มติชน เฮลท์แคร์ ดูแลสุขภาพ” ว่า กระทรวงสาธารณสุข ให้การสนับสนุนสื่อมวลชนต่างๆ ในการเป็นช่องทางเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสุขภาพ หรืองานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ไปสู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ดูแลสุขภาพ ลดการเจ็บป่วย ซึ่งนับวันจำนวนคนป่วยจะมากขึ้น
มีข้อมูลที่น่าสนใจจากผลสำรวจสุขภาพของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ซึ่งสำรวจโดยใช้วิธีตรวจร่างกายประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปทุกๆ 5 ปี ล่าสุดในปี 2552 ได้ดำเนินการใน 20 จังหวัดทั่วประเทศและกทม. จำนวน 20,450 คน และเปรียบเทียบกับผลการสำรวจในปี 2547 พบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพดีขึ้น 2 เรื่องคือ การสูบบุหรี่เป็นประจำลดลงจากร้อยละ 25 เหลือร้อยละ 20 และการดื่มสุราในระดับเสี่ยงปานกลางคือชายดื่มสุราตั้งแต่ 41 กรัมต่อวัน และหญิงดื่มตั้งแต่ 21 กรัมต่อวัน มีจำนวนลดลงจากร้อยละ 17 เหลือร้อยละ 14
ส่วนพฤติกรรมที่ยังน่าห่วงคือเรื่องการออกกำลังกาย โดยมีประชาชนร้อยละ 19 ออกกำลังกายน้อย และจำนวนคนที่กินผักและผลไม้ได้ตามมาตรฐานคือวันละอย่างน้อย 400 กรัม ลดลงจากร้อยละ 22 เหลือร้อยละ 18 ขณะเดียวกันจำนวนคนอ้วนมีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากที่มีร้อยละ 29 ในปี 2547 เพิ่มเป็นร้อยละ 35 หรือพบได้ทุกๆ 1 ใน 3 คน โดยพบผู้หญิงอ้วนร้อยละ 41 ผู้ชายร้อยละ 28 คนที่มีระดับไขมันในเลือดสูงจากร้อยละ 16 เป็นร้อยละ 19 มีภาวะซีดโลหิตจางจากร้อยละ 17 เพิ่มเป็นร้อยละ 23 และยังพบคนที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 21 เบาหวานร้อยละ 7 มีภาวะซึมเศร้าร้อยละ 3 ส่วนในกลุ่มผู้สูงอายุพบว่า มีภาวะสมองเสื่อมร้อยละ 12 และเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น เข่าเสื่อม เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ด้วย
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายเร่งการส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันควบคุมโรค เพื่อลดจำนวนผู้เจ็บป่วย โดยในปี 2553 จะพัฒนาสถานีอนามัยให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 2,000 แห่ง และให้ครบ 10,000 แห่งในปี 2554 เพื่อให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทำหน้าที่หลักในการสร้างเสริมสุขภาพ ดูแลคนสุขภาพดีไม่ให้ป่วย ลดปัญหาโรคแทรกซ้อนในกลุ่มที่ป่วยเรื้อรัง ร่วมกับอสม. เพื่อปรับเปลี่ยนและสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีแก่ประชาชน เช่น การออกกำลังกาย กินอาหารที่เหมาะสม
         สำหรับงาน“มติชน เฮลท์แคร์ ดูแลสุขภาพ” ได้ให้หน่วยงานในสังกัดร่วมจัดกิจกรรม อาทิ นิทรรศการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาล 3 เอส แสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย การสาธิตและแจกน้ำสมุนไพร การทำน้ำอบแป้งร่ำจากสมุนไพร การทำธูปหลับคลายเครียดจากต้นเปราะหอมและลูกประคบหน้าจากดอกสเลเต นวดเพื่อสุขภาพราคาถูก จัดบริการสุขภาพ ฟรี อาทิ ตรวจจอประสาทตาในผู้ป่วยเบาหวาน ตรวจภาวะอ้วน ตรวจสมรรถภาพปอด ตรวจสภาพผิว การประเมินภาวะเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองด้วยตนเอง การให้คำปรึกษาทางโภชนาการโรคหลอดเลือดสมอง ให้คำแนะนำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต และบริการเอ็กซเรย์ปอดด้วยรถเอ็กซเรย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลเลิดสินและรพ.นพรัตนราชธานี ด้วย
  ******************************** 9 มิถุนายน 2553


   
   


View 18    09/06/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ