วันนี้(10 พฤษภาคม 2553)ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมผู้บริหาร เพื่อติดตามความคืบหน้าของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลว่า ในปี 2553 จะดำเนินการ 2,000 แห่ง ซึ่งจะมี 2 รูปแบบได้แก่ โรงพยาบาลเดี่ยว และโรงพยาบาลเครือข่ายคือมี 2-3 สถานีอนามัยรวมกันเป็น 1 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยได้ของบประมาณไทยเข้มแข็งในส่วนของพระราชกำหนด ที่ประหยัดได้จากโครงการไทยเข้มแข็งเดิม 11,500 ล้านบาทที่คณะกรรมการชุด นพ.บรรลุ ศิริพานิช สอบและได้ปรับลดวงเงิน ตัดรายการที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้มีเงินเหลือ 1,490 ล้านบาท ซึ่งได้ลงนามขอใช้เงินก้อนนี้ เพื่อยกระดับสถานีอนามัย เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในปี 2553 จำนวนประมาณ 2,000 แห่ง คาดว่าหากไม่มีอะไรติดขัด จะสามารถเริ่มได้ในเดือนมิถุนายนนี้ทันที

          นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในการจัดสรรงบประมาณพัฒนาดังกล่าว แบ่งออกเป็น 3 ขนาดตามประชากรที่ดูแล โดยโรงพยาบาลขนาดเล็กที่มีประชากรรับบริการไม่เกิน 3,000 คน จะได้แห่งละ 490,000 บาท โรงพยาบาลขนาดกลางประชากร 3,000-7,000 คน จะได้แห่งละ 690,000 บาท และโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ดูแลประชากร 7,000 คนขึ้นไป จะได้งบแห่งละ 890,000 บาท โดยสำนักงบประมาณได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว
          ทั้งนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมบุคลากรทันทีที่เปิดให้บริการ โดยโรงพยาบาลเดี่ยว จะมีอย่างน้อย 4 ตำแหน่งสำคัญได้แก่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล 1 ตำแหน่ง   แพทย์หรือพยาบาลเวชปฏิบัติหรือพยาบาลวิชาชีพ เพื่อดูแลเรื่องการรักษา 1 ตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพควบคุมป้องกันโรค 1 ตำแหน่ง และสหวิชาชีพเช่นแพทย์แผนไทย ทันตาภิบาล เภสัชกรหรืออื่นๆ 1 ตำแหน่ง นอกนั้นเป็นลูกจ้าง ส่วนโรงพยาบาลเครือข่ายจะมี 7 ตำแหน่งเป็นอย่างน้อย ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล 1 ตำแหน่ง แพทย์หรือพยาบาลเวชปฏิบัติหรือพยาบาลวิชาชีพ 1 ตำแหน่ง และนักวิชาการสาธารณสุข 1 ตำแหน่ง อีก 4 ตำแหน่งจะเป็นสหวิชาชีพ และลูกจ้างอีก มั่นใจว่าในปี 2553 จะจัดบุคลากรได้ครบถ้วน คาดว่าใน 2 สัปดาห์นี้จะมีรายละเอียดออกมาชัดเจนว่าโรงพยาบาลใดจะจัดบุคลากรไปอย่างไร 
          นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2554 ได้ของบประมาณดำเนินการสถานีอนามัยในส่วนที่เหลืออีก 8,000 แห่งทั่วประเทศ รวมแล้วจะครบ 10,000 แห่งทั่วประเทศ ได้รับความเห็นชอบเบื้องต้นจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ทั้งนี้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จะมีส่วนสำคัญช่วยให้ประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชนสามารถไปใช้บริการได้สะดวกใกล้บ้าน และมีบุคลากรที่มีความพร้อมให้บริการทั้งการรักษา การควบคุมป้องกันโรค การฟื้นฟูสุขภาพ การคุ้มครองผู้บริโภค โดยบริการหลักจะเน้นการส่งเสริมสุขภาพ และจะรักษาพยาบาลในเรื่องของโรคเบื้องต้น
ถ้ามีความจำเป็นต้องพบแพทย์ก็จะสามารถใช้ระบบเทเลเมดดิซิน หรือเว็ปแคมที่มีอยู่ เพราะจะมีงบประมาณที่จะจัดซื้อครุภัณฑ์บางส่วน ที่จะช่วยให้แพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาลชุมชนที่เป็นแม่ข่าย สามารถวินิจฉัยโรคผ่านทีวี และจะสั่งการให้พยาบาลวิชาชีพหรือเวชปฏิบัติสามารถดำเนินการดูแลผู้ป่วยได้ และถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องส่งต่อ จะมีรถพยาบาลซึ่งได้จัดซื้อให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในงบประมาณไทยเข้มแข็ง แต่ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งทั่วประเทศ ไปรับ   นายจุรินทร์ กล่าว
**************************** 10 พฤษภาคม 2553
 


   
   


View 18    10/05/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ