กรมอนามัย X LINE MAN Wongnai สานต่อความร่วมมือขับเคลื่อนเมนูชูสุขภาพ หวานน้อยสั่งได้
- กรมอนามัย
- 54 View
- อ่านต่อ
กรมการแพทย์ รพ.เมตตา ฯ (วัดไร่ขิง) แนะ! หากเกิดภาวะม่านตาอักเสบซึ้งเป็นการอักเสบในส่วนของม่านตา (Iris, Ciliary body, Choroid) อันเป็นภาวะอันตรายที่ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และทันท่วงที ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงตามมา หากรู้เท่าทันก่อนรักษาได้
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีในการวินิจฉัยและยาที่ใช้ในการรักษาภาวะม่านตาอักเสบได้รับการพัฒนามากขึ้น ทำให้การวินิจฉัยโรคมีความแม่นยำ มีผลลัพธ์ของการรักษาที่ดีและสามารถพยากรณ์โรคได้ถูกต้อง ทั้งนี้ภาวะม่านตาอักเสบมีความแตกต่างจากโรคอื่นๆ โดยเฉพาะการอักเสบแบบเรื้อรังเนื่องจากมีโอกาสเกิดซ้ำสูงมาก ดังนั้นการที่จะทราบสาเหตุที่แน่ชัด การที่รู้จักและเข้าใจธรรมชาติของโรคจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง ลดโอกาสเกิดโรคซ้ำและลดภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาได้
นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวถึง ภาวะม่านตาอักเสบ (Uveitis) คือการอักเสบของยูเวีย(Uvea) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อชั้นกลางของผนังลูกตาและในบางครั้งการอักเสบสามารถลุกลามไปยังบริเวณอื่นของดวงตา มักมีอาการตาแดงโดยเฉพาะบริเวณรอบตาดำ ปวดตา ตามัว ตาสู้แสงไม่ได้ เห็นจุดลอยไปมาในปริมาณมาก ซึ่งอาจเกิดกับดวงตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งสาเหตุภาวะม่านตาอักเสบอาจเกิดจากการติดเชื้อ โรคทางภูมิคุ้มกันและโรคประจำตัวอื่นๆ การได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาอย่างทันท่วงที เพราะหากปล่อยไว้ อาจรุนแรงจนถึงขั้นทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
นายแพทย์โยธิน ฐิตวัฒนกุล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กล่าวเสริมว่า ภาวะม่านตาอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุที่หลากหลาย ได้แก่ การติดเชื้อ ภาวะภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติและโรคทางภูมิคุ้มกัน รวมทั้งกลุ่มมะเร็งภายในลูกตาซึ่งพบได้น้อย ภาวะม่านตาอักเสบที่สามารถหาสาเหตุได้แก่ จากการติดเชื้อ เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อวัณโรค เชื้อโปโตซัว เชื้อรา และเชื้อพยาธิ จากภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติและโรคทางภูมิคุ้มกัน เช่น โรคภูมิคุ้มกันตนเอง (SLE) โรครูมาตอยด์ โรคเบเช็ท (Behcet) โรคซาคอยด์ (Sarcoidosis) โรคโวกต์–โคยานางิ–ฮาราดะ (VKH) จากโรคทางพันธุกรรม เช่น โรคที่เกิดจากยีน HLA-27 รวมไปถึงโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งเม็ดเลือด โรคมะเร็งที่ลุกลามมาจากอวัยวะอื่น อย่างไรก็ตาม ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยม่านตาอักเสบที่ถึงแม้ว่าจะมีการตรวจเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการแล้วก็ไม่พบสาเหตุของม่านตาอักเสบที่ชัดเจนสำหรับภาวะแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นจากภาวะม่านตาอักเสบได้ เช่น โรคต้อหิน โรคต้อกระจก โรคทางจอประสาทตาฯลฯ ในส่วนของวิธีการรักษาทั่วไปในระยะเริ่มต้นมีเป้าหมายเพื่อลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเนื้อเยื่อในลูกตาโดยประเภทของยาที่ใช้รักษาประกอบด้วยยาสเตียรอยด์ ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัสเพื่อควบคุมการติดเชื้อ อาจมีความจำเป็นต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันในกรณีภาวะม่านตาอักเสบที่มีความรุนแรงและสามารถป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรค ผู้ป่วยควรพบจักษุแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการและประเมินการอักเสบอย่างใกล้ชิด ตลอดจนเฝ้าระวังผลข้างเคียงของโรคและของยาที่ใช้ในการรักษาที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ภาวะต้อกระจกหรือความดันตาสูง หากผู้ป่วยมีอาการแย่ลงควรรีบมาพบจักษุแพทย์
#กรมการแพทย์ #รพ.เมตตาฯ (วัดไร่ขิง) #โรคม่านตาอักเสบ #โรคทางพันธุกรรม #ภาวะแทรกซ้อน -ขอขอบคุณ-
19 มีนาคม 2568
นายแพทย์โยธิน ฐิตวัฒนกุล
นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ