วันนี้(19  มีนาคม  2553) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดงาน “มวลชน รวมพลัง หยุดยั้งวัณโรค” ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯว่า สถานการณ์โรควัณโรคของไทยยังเป็นปัญหาและติดอันดับที่ 18 ใน 22 ประเทศทั่วโลก องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าไทยมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 125,000 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 40,000 ราย เสียชีวิตปีละ 13,000 ราย ขณะที่อัตราความสำเร็จในการรักษามีเพียงร้อยละ 74 ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้คือร้อยละ 85  เนื่องจากไทยมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 8  และอัตราการขาดการรักษาร้อยละ 6  ทั้งนี้วัณโรคเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายของโรคเอดส์และแรงงานเคลื่อนย้าย  ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค ดำเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกับมูลนิธิเครือข่าย โดยมุ่งเป้าหมายที่การให้การรักษาผู้ป่วยให้กินยาครบตามกำหนด และรักษาหายให้ได้มากกว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยทั้งหมด  โดยการพัฒนาคุณภาพการกินยาของผู้ป่วย และเสริมสร้างชุมชนให้มีส่วนร่วมในการสร้างความเข้าใจให้ผู้ป่วย กินยาให้ครบ รักษาจนหาย และไม่รังเกียจผู้ป่วย

  นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่อยากจะฝากสำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศ 3 เรื่อง ประการแรกคือ ขอให้ประชาชนช่วยสังเกตอาการของวัณโรค หากคนในครอบครัวมีอาการไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืนน้ำหนักลดเกินกว่า 2 สัปดาห์ ขอให้พาไปพบแพทย์เพราะอาจจะป่วยเป็นวัณโรค   ประการที่ 2 หากมีคนในบ้านป่วยเป็นวัณโรค เมื่อแพทย์ให้ยารักษาวัณโรคแล้ว  จะต้องกินให้ครบตามที่กำหนด 6 เดือน  ประการที่ 3 ขอฝากสังคมว่าจะต้องไม่รังเกียจผู้ป่วยที่เป็นวัณโรค และช่วยกันดูแลให้ผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บป่วย ซึ่งเท่ากับว่าช่วยสังคมในภาพรวม  เนื่องจากจะเป็นการลดการแพร่ระบาดของวัณโรค ไม่ให้ติดต่อผู้อื่นได้
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์  วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข  มีแผนงานควบคุมวัณโรคแห่งชาติเพื่อลดอัตราป่วยและเสียชีวิต และลดการแพร่เชื้อของเชื้อวัณโรค โดยมียุทธศาสตร์ดำเนินงานคือ การเสริมสร้างความเข้มแข็งตามมาตรฐาน ให้ทุกองค์กรทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม  การเร่งรัดดำเนินงานควบคุมโรคผสมผสานระหว่างวัณโรคและโรคเอดส์ซึ่งเกี่ยวข้องกัน โดยวัณโรคปอดเป็นโรคฉวยโอกาสอันดับ 1 ที่เกิดกับผู้ติดเชื้อโรคเอดส์ เนื่องจากผู้ป่วยวัณโรคมีระดับภูมิต้านทานโรคต่ำอยู่แล้ว
นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขยังได้สร้างกลไกความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการควบคุมป้องกันวัณโรคในประชากรกลุ่มเสี่ยงพิเศษและตามพื้นที่ชายแดน การเฝ้าระวังป้องกันปัญหาวัณโรคดื้อยาหลายขนาน การพัฒนาบุคลากรและการสนับสนุนการศึกษาวิจัยและพัฒนางานควบคุมวัณโรค  ทั้งนี้ผู้ป่วยวัณโรคของไทยทุกคน จะได้รับการรักษาฟรี นอกจากนี้คนไทยที่ไม่มีบัตรประชาชน คนต่างด้าว ก็สามารถมารับบริการรักษาวัณโรคได้ฟรีเช่นกัน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนโลก
********************** 19 มีนาคม 2553
 
 


   
   


View 9    19/03/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ