รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งแพทย์พยาบาลรับมือปัญหาสุขภาพจากหมอกควัน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ล่าสุดพบมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจแล้วเกือบ 1 แสนราย ชี้หากเผชิญหมอกควันนานวัน คาดจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้หลายเท่าตัว นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนจากกรณีหมอกควันใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน และแม่ฮ่องสอน ว่า ในเบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งหน้ากากอนามัยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั้ง 8 จังหวัดแล้ว 518,000 ชิ้น โดยให้เชียงใหม่ 150,000 ชิ้น เชียงราย 110,000 ชิ้น ลำปาง 69,000 ชิ้น พะเยา 44,000 ชิ้น น่าน 43,000 ชิ้น แพร่ 42,000 ชิ้น ลำพูน 37,000 ชิ้น และแม่ฮ่องสอน 23,000 ชิ้น จากการประเมินสถานการณ์หมอกควันพบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และปัญหาจากการเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากหมอกควัน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 จนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2553 โดยรายงานใน 19 โรงพยาบาล ประกอบด้วยโรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ 8 จังหวัด พบมีประชาชนเจ็บป่วยสูงขึ้นทุกโรค ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานรวม 96,040 ราย แต่อาการไม่รุนแรง โรคที่มีอัตราป่วยสูงที่สุด คือผู้ป่วยโรคหัวใจทุกชนิด อัตราป่วยแสนละ 560 คน รองลงมาคือโรคทางเดินหายใจทุกชนิด อัตราป่วยแสนละ 501 คน ซึ่งในระยะแรกนี้จะมีผู้ป่วยจำนวนมากที่มีอาการเจ็บป่วยน้อยแต่ไม่ได้ไปโรงพยาบาล เนื่องจากยังทนต่อผลกระทบได้ แต่หากเผชิญปัญหาหมอกควันนานวันขึ้น มั่นใจว่าจำนวนผู้ป่วยที่จะเข้ารักษาในโรงพยาบาลจะมีมากขึ้นกว่านี้หลายเท่าตัว ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดประชุมแพทย์ พยาบาล เพื่อเตรียมรับภาวะฉุกเฉินจากหมอกควัน ทั้งยา และเวชภัณฑ์อื่น ๆ ไว้ทั้งหมดแล้ว นางพรรณสิริ กล่าวต่ออีกว่า ขอแนะนำให้ประชาชนใน 8 จังหวัดติดตามสถานการณ์มลพิษทางอากาศรายวันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณของฝุ่นละอองจากควันไฟนี้มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สามารถผ่านจมูกลงไปสู่ปอด หากสะสมมากอาจก่อมะเร็งปอดได้ วิธีการป้องกันการสูดฝุ่นเข้าจมูก ปอด อย่างง่ายๆ ประชาชนสามารถใช้หน้ากากอนามัยชนิดผ้า หรือผ้าเช็ดหน้าพรมน้ำหมาด ๆ ปิดปาก จมูก ขณะออกนอกบ้านซึ่งจะช่วยกรองฝุ่นไม่ให้เข้าจมูกได้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับรถจักรยานยนต์ หากสวมหมวกกันน็อคชนิดที่มีกระบังกันลมและคาดหน้ากากอนามัยด้วย จะเป็นการดีมาก เพราะสามารถป้องกันการสูดควันเข้าปอด เนื่องจากขณะใช้ความเร็วจะทำให้ผู้ขับขี่ปะทะกับฝุ่นละออง หมอกควันมากขึ้น ****************************** 10 มีนาคม 2553


   
   


View 9    10/03/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ