วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2553) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายแก่ผู้บริหาร ในการประชุมของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขนิเทศก์ ผู้อำนวยการกองและสำนักต่างๆในสังกัด   ว่า ขอให้ทำงานแบบบูรณาการร่วมกับกรมวิชาการอื่นๆ  โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงซึ่งมีหน้าที่จัดบริการประชาชนเป็นกรมหลัก  เนื่องจากหลายกรมมีงานของตัวเอง แต่มีเรื่องเดียวกันกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เช่น กรมอนามัยมีการดูแลเกี่ยวกับเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ขอให้แบ่งกลุ่มเป้าหมายในการดูแล หรือดูแลเป็นรายกลุ่มโรค

         นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองเพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลใดก็ได้ภายในจังหวัดที่อาศัยอยู่  ยกเว้นกรณีฉุกเฉินสามารถรักษาข้ามจังหวัดได้ สามารถเบิกคืนได้  ซึ่งได้นำร่องเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552  ใน 8 จังหวัด  ได้แก่  แพร่, พิษณุโลก,  อุบลราชธานี,  ยโสธร, ราชบุรี, นครนายก, ศรีสะเกษ และพังงา จะต้องมีการประเมินผลการทำงานของจังหวัดดังกล่าว  ทุก 3 เดือน และ 6 เดือน   ไม่ต้องรอการประเมินจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาการทำงานของโรงพยาบาล หากโรงพยาบาลที่ให้บริการประชาชนดี  มีประชาชนจะเข้ารับการรักษามาก จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น  แต่หากโรงพยาบาลใดให้บริการไม่ดี  ประชาชนไม่เข้ารับการรักษา  ก็จะขาดทุนและจะต้องปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น

                   นอกจากนี้ยังต้องมีการกระจายความพร้อมไปทุกอำเภอ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีโอกาสมี รพ.ในตำบลด้วย  พร้อมกันนี้ได้ให้ผู้บริหารตรวจสอบระบบการตรวจสุขภาพฟรีของประชาชนว่าดำเนินตรวจอะไรไปแล้วบ้าง   และต้องตรวจอะไรเพิ่มเติม   รวมถึงเรื่องการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว เพื่อนำเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพ ของกลุ่มแรงงานต่างด้าว นายจุรินทร์ กล่าว
  .................................. 17 กุมภาพันธ์ 2553



   
   


View 22    17/02/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ