วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2553) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีที่นักศึกษาวิทยาลัยนครราชสีมาซึ่งเป็นวิทยาลัยเอกชน เปิดสอนสาขาวิชาการพยาบาล ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ยังไม่ได้รับการรับรองจากสภาการพยาบาล และมีการร้องเรียนจากนักศึกษาไปยังองค์กรต่างๆ รวมถึงกระทรวงสาธารณสุขด้วย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในวันนี้สภาการพยาบาลได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง พบว่ากระบวนการเรียนการสอนและหลักสูตรของวิทยาลัยนครราชสีมานั้น ได้รับการรับรองหลักสูตรเฉพาะปี 2548 และปี 2549 แต่ปี 2550 สภาการพยาบาลได้ขอให้วิทยาลัยปรับปรุงกระบวนการดำเนินการต่างๆ เช่น จำนวนอาจารย์ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ รวมถึงอาจารย์ที่มีชื่อแต่ไม่ได้ทำการสอน สภาพยาบาลได้แจ้งว่าวิทยาลัยนครราชสีมา ได้เพิกเฉยไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสภาพยาบาล ดังนั้นสภาการพยาบาลจึงไม่มีมติรับรองหลักสูตรของคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยนครราชสีมา ในปี 2550 กับปี 2551 ทำให้เกิดปัญหากับนักศึกษาที่เข้าเรียนตั้งแต่ปี 2548 ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 3 และนักศึกษาที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ซึ่งไม่ได้รับการรับรองทำให้ไม่สามารถสอบใบประกอบโรคศิลปะได้ นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ผลกระทบที่เกิดกับเด็กที่เข้าเรียนในวิทยาลัยดังกล่าว ทางกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าควรดำเนินการกับสถาบันที่เปิดสอนและผู้บริหารสถาบันโดยตามกฎหมาย เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ ในส่วนของนักศึกษานั้น กระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าเข้าเรียนโดยสุจริต ฉะนั้นจึงหามาตรการที่จะช่วยนักศึกษาดังกล่าว โดยให้สถาบันพระบรมราชชนก ช่วยหาสถานที่เรียนให้นักศึกษาที่มีปัญหาโดยให้ใช้ระบบการเทียบโอนหน่วยกิต ไปยังสถาบันการศึกษาใหม่ที่หาได้ พร้อมกันนี้สภาการพยาบาลได้รับที่จะช่วยดำเนินการให้วิทยาลัยพยาบาล 29 แห่งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับการรับรองหลักสูตรจากสภาการพยาบาลช่วยพิจารณารับเด็กเหล่านี้ หรือในส่วนที่เรียนจบแล้ว แต่ไม่สามารถสอบในประกอบโรคศิลปะได้ให้เข้ามาศึกษาเพิ่มเติม นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงหลักสูตรแพทย์ภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขกำลังพิจารณาอยู่ว่า ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 จะมีการพิจารณาโดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์กำลังคนการสาธารณสุข ที่มีนายแพทย์มงคล ณ สงขลา เป็นประธาน จะรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 แพทยสภาจะพิจารณาอีกครั้ง โดยกระทรวงสาธารณสุขจะนำข้อคิดเห็นมาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นในการดำเนินการใดๆ จะต้องไม่กระทบต่อการผลิตแพทย์เพื่อดูแลประชาชนไทย ****************************** 8 กุมภาพันธ์ 2553


   
   


View 12    08/02/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ