ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตรวจสอบกรณีร้องโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังทำลูกตายหลังฉีดยายับยั้งการคลอดก่อนกำหนด พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย จากกรณีที่นายสมบัติ แจ่มน้อย เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจมีนบุรี ว่า แพทย์คนหนึ่งโรงพยาบาลนวมินทร์ ได้ฉีดยายับยั้งการคลอดให้กับนางสิริลักษณ์ ปลั่งกลาง อายุ 40 ปี ภรรยา ทำให้ทารกเพศชายในครรภ์เสียชีวิต โดยภรรยาตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน มีอาการเจ็บครรภ์เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2553 จึงไปโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ไว้ และตนได้เซ็นยินยอมให้มีการผ่าตัด แต่โรงพยาบาลได้โทรศัพท์สอบถามนายแพทย์คนหนึ่ง ได้ให้ความเห็นว่าเด็กในครรภ์ยังไม่ถึงกำหนดคลอด ให้พยาบาลฉีดยายับยั้งการคลอด โดยหลังฉีดยาเด็กในครรภ์ไม่มีอาการดิ้น พยาบาลบอกว่าเป็นเพราะแม่หลับ และให้นอนพักที่โรงพยาบาล 2 วันแพทย์จึงให้กลับบ้าน หลังกลับจากโรงพยาบาล ภรรยามีอาการเบื่ออาหาร ลูกไม่ดิ้นเช่นเดิม และในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 ได้ไปพบแพทย์ตามนัด แพทย์ตรวจอุลตราซาวน์พบเด็กในครรภ์เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากสายสะดือพับทำให้ขาดอากาศหายใจ และทำการผ่าตัดคลอดให้ในวันเดียวกัน ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2553) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าได้สั่งการให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวเป็นการด่วน และตรวจสอบมาตรฐานของโรงพยาบาลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า การที่หญิงตั้งครรภ์ 8 เดือน และมดลูกบีบตัวถี่ เป็นสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนด ตามหลักการของการรักษา แพทย์จะให้ยาผ่อนคลายการบีบตัวของมดลูก เพื่อประคับประคองการตั้งครรภ์ให้ครบกำหนดคลอดคือ 9 เดือน เพราะการทำงานของอวัยวะต่างของเด็กจะสมบูรณ์ เด็กจะปลอดภัย ส่วนการให้ยาแล้วเกิดผลเช่นไร ต้องขอดูรายละเอียด ยังไม่สามารถบอกว่าใครผิดใครถูก ด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพประสานงานกับโรงพยาบาลนวมินทร์ เพื่อขอข้อมูลผู้ป่วยรายดังกล่าวและข้อมูลการให้ บริการจากโรงพยาบาล เพื่อจะนัดหารือพร้อมกันทั้ง 2 ฝ่ายในเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกันหากเกี่ยวข้องกับมาตรฐานการรักษาก็จะส่งข้อมูลให้แพทยสภาพิจารณาด้วย ****************************** 8 กุมภาพันธ์ 2553


   
   


View 12    08/02/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ