วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2553) ที่ บางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอนด์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีเด็กนักเรียนที่กินยาแก้ไอเดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) ว่า ขณะนี้เด็กนักเรียนอาการดีขึ้น และออกจากโรงพยาบาลไปแล้วหลายคน เหลือนอนในโรงพยาบาลแค่ 19 คน ซึ่งอาการผู้ป่วยทั้งหมดปลอดภัยแล้ว สำหรับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยร้านเกมส์ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ขายยา แต่ได้จำหน่ายยาให้เด็ก ซึ่งถือว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย จากการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เบื้องต้นพบว่า ร้านที่ขายยาให้ร้านเกมส์ดังกล่าว ไม่มีบัญชีควบคุมยาอันตราย และขณะที่ขายยาพบว่าไม่มีเภสัชกรอยู่ประจำร้านด้วย กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งให้ความรู้ความเข้าใจแก่เด็ก เรื่องการใช้ยาเดกซ์โทรเมทอร์แฟน ซึ่งเป็นยาแก้ไอที่มีฤทธิ์กดประสาทเล็กน้อย เพื่อระงับอาการไอ หากกินมากจะง่วงซึม มึนงง และอาเจียน พร้อมกันนี้ครู และผู้ปกครอง จะต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ติดตามพฤติกรรมของเด็กด้วย นายจุรินทร์ กล่าวในที่สุด ทางด้านนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยากล่าวว่า ยาเดกซ์โทรเมทอร์แฟน เป็นยาแก้ไอที่มีฤทธิ์กดประสาท เพื่อระงับอาการไอ หากกินมากจะง่วงซึม มึนงง และอาเจียน เป็นยากลุ่มที่มีฤทธิ์อันตรายที่ต้องควบคุมพิเศษ ต้องมีทะเบียนควบคุมการจำหน่าย โดยต้องมีรายชื่อผู้ชื้อและจำนวนการซื้อแต่ละครั้ง โดยยาดังกล่าวต้องจำหน่ายโดยเภสัชกรเท่านั้น หากร้านขายยาจำหน่ายยาดังกล่าวโดยไม่มีเภสัชกร มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนเภสัชกรที่มีชื่อประจำร้านก็จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และจะส่งเรื่องให้สภาเภสัชกรรมดำเนินเอาผิดทางจริยธรรม เพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ และร้านขายยาที่ไม่ได้ทำทะเบียนคุมการจำหน่ายมีโทษปรับและ 10,000 บาท ทั้งนี้ รายขายยาจะต้องส่งทะเบียนการจำหน่ายยาควบคุมให้หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค ของสำนักงานสาธารณสุขแต่ละจังหวัดทุก 3 เดือน นายแพทย์พิพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้เร่งให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเรื่องการใช้ยาทั้งประโยชน์และโทษของยาที่เป็นอันตราย เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ที่ถูกต้องในการเลือกใช้ยาและเข้าถึงอย่างทั่วถึง ****************************** 4 กุมภาพันธ์ 2553


   
   


View 3       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ