วันนี้ (25 มกราคม 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าผลการกรวดน้ำหมักของ นางสาวศรวรรณ ศิริสุนทรินท์ หรือ ป้าเช็ง ได้แก่ น้ำมหาบำบัด ที่จำหน่ายราคาขวดละ 1,000 บาท อ้างสรรพคุณรักษาได้เกือบทุกโรค และน้ำเจียรนัยเพชร ที่ใช้หยอดตา ขายขวดละประมาณเกือบ 100 บาท ว่า ผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในเบื้องต้นพบว่า น้ำหมักทั้ง 2 ชนิด มีสภาพเป็นกรด มีฤทธิ์ระคายเคืองเยื่อบุเซลล์ หากหยอดตาจะทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อน และหากเป็นกรดรุนแรงอาจเป็นอันตรายต่อเลนซ์ตาได้ และยังตรวจพบเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิด ซึ่งในทางการแพทย์ยาหยอดตาที่ใช้ จะต้องไม่มีการปนเปื้อนเชื้อโรคใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนจะเป็นเชื้อชนิดใดจะต้องเพาะเชื้อต่อ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 วันจึงจะทราบผล นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ผลการตรวจน้ำหมักทั้ง 2 ชนิดไม่พบตัวยาทั้งยาปฏิชีวนะ และเพรดนิโซโลน ซึ่งเป็นสารสเตียรอยด์ จึงวินิจฉัยเบื้องต้นว่าไม่สามารถนำมาใช้รักษาโรคได้ สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการขั้นต่อไปคือ ให้ป้าเช็งยุติการผลิต จำหน่าย โฆษณาโดยสิ้นเชิง และมอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญกระทรวงสาธารณสุขจะเน้นการรณรงค์การคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเข้มข้น เพื่อให้มีความรู้ ไม่หลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อผู้ประกอบการที่ผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันจะใช้มาตรการทางกฎหมายที่เข้มข้นต่อไป หากป้าเช็งยังไม่ยุติ แม้ว่าจะเป็นการแจกฟรีก็ตาม ถือว่ามีความผิดจะต้องดำเนินคดีซ้ำอีก ทั้งการผลิต จำหน่าย โฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง และอาจมีข้อหาอื่น ๆ อีก ตามที่มีประชาชนมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายจุรินทร์กล่าว ด้านนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ( อย.) กล่าวว่า ประเด็นที่ประชาชนร้องเรียนผลิตภัณฑ์ของป้าเช็งไปที่ อย. เป็นการหยอดตาด้วยน้ำหมักแล้วมีอาการปวดแสบปวดร้อน จึงหยุดใช้ทันทีและโทรแจ้งมายัง อย. โดยเมื่อผลการตรวจเบื้องต้นพบการปนเปื้อนแบคทีเรีย หลักการคือต้องยุติการใช้ทันที และ อย.ให้ป้าเช็งหยุดผลิตและหยุดจำหน่ายแก่ประชาชนอย่างสิ้นเชิง มิฉะนั้นจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย อย. อย่างไรก็ดี ประชาชนที่ประสบปัญหาหลังซื้อผลิตภัณฑ์ของป้าเช็งไปใช้ สามารถแจ้งความกับผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ ****************************** 25 มกราคม 2553


   
   


View 9    25/01/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ