นายกฯ เร่ง ทีมปฏิบัติการสื่อสาร แจ้งเตือน ดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยว เน้นย้ำ ทุกหน่วยป้องกันไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นจิ๋ว
- กรมอนามัย
- 17 View
- อ่านต่อ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูฝนและกำลังเผชิญกับอุทกภัยครั้งรุนแรงในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ส่งผลให้พระภิกษุสงฆ์สามเณร รวมถึงประชาชนได้รับผลกระทบหลายครัวเรือน อีกทั้งสภาพอากาศยังคงความแปรปรวนทั้งร้อนและเย็นสลับกันไม่เว้นแต่ละวัน โดยอากาศจะร้อนชื้นและอุณหภูมิลดลงเป็นบางช่วง อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และภูมิต้านทานลดต่ำลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้พระภิกษุสงฆ์สามเณรอาพาธได้ง่ายมากขึ้น จึงสั่งการให้โรงพยาบาลสงฆ์ กรมการแพทย์ ประสานพื้นที่ดูแลช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์สามเณรใกล้ชิด เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการอาพาธด้วยโรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดอักเสบ โรคทางตาและโรคฉี่หนู เป็นต้น เพื่อเป็นการป้องกันโรคที่มากับหน้าฝน และป้องกันตนเองจากสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าว จึงขอแนะนำให้พระคุณเจ้าควรหลีกเลี่ยงเดินบริเวณน้ำท่วมขัง เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือได้รับอันตรายจากสัตว์มีพิษ ของแหลมคม เนื่องจากพระภิกษุสงฆ์สามเณรไม่ได้สวมรองเท้าเหมือนคนทั่วไป ทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคฉี่หนู (เลปโตสไปโรซิส) จากน้ำที่สกปรกซึ่งเป็นแหล่งที่มาของเชื้อโรคดังกล่าว อาจทำให้ท่านเสี่ยงและอาพาธได้ นอกจากนี้ยังจะมีโรคน้ำกัดเท้าอีกด้วย ซึ่งหากเปียกฝนเมื่อกลับถึงกุฏิให้รีบสรงน้ำ เปลี่ยนจีวรทันที เช็ดเท้าให้แห้งสะอาดและควรรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปลอดภัยห่างไกลจากโรคไข้หวัด รวมถึงโรคอื่น ๆ ที่มาพร้อมกับหน้าฝนด้วย
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและโลกมีอากาศที่ร้อนขึ้น ทำให้ฝนตกชุกมากขึ้น ขณะนี้พื้นที่ในจังหวัดเชียงรายและใกล้เคียงกำลังประสบภัยกับน้ำท่วม อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันลดลงจึงทำให้เชื้อโรคที่เกิดเชื้อไวรัสต่าง ๆ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย อาทิ โรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดอักเสบ โรคไข้เลือดออก โรคฉี่หนู และโรคทางตา เป็นต้น จึงมอบหมายโรงพยาบาลสงฆ์ดูแลช่วยเหลือสุขภาพพระสงฆ์สามเณรตามข้อสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข โดยประสานความช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์สามเณร และประชาชนในพื้นที่ โดยส่งสิ่งของจำเป็นถวายแด่คณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายและใกล้เคียง ได้แก่ เครื่องอัฐบริขาร เครื่องอุปโภคบริโภค สบง จีวร ข้าวสาร น้ำดื่ม ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับผู้ใหญ่ และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ อีกหลายรายการ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือนร้อนแด่พระภิกษุสงฆ์สามเณรจากสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าว
นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรงพยาบาลสงฆ์ กรมการแพทย์ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดย กองพุทธศาสนสถาน ได้แจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพื่อติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากพื้นที่ใดมีวัดได้รับผลกระทบให้เร่งประสานคณะสงฆ์สำรวจและแจ้งโดยด่วน ตลอดจนให้ประสานฝ่ายสาธารณะสงเคราะห์จังหวัดเปิดศูนย์ช่วยเหลือ รวมถึงถวายคำแนะนำการขอรับเงินทุนช่วยเหลือจากกองทุนวัดช่วยวัด และงบประมาณการบูรณปฏิสังขรณ์ประจำปี ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และการช่วยเหลือสนับสนุนทางการแพทย์สามารถประสานโรงพยาบาลสงฆ์ กรมการแพทย์ และจากข้อมูลการสำรวจ ณ วันที่ 13 กันยายน 2567 มีวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว ในจังหวัดเชียงราย ตาก น่าน พะเยา และแพร่ รวมวัดได้รับผลกระทบ จำนวน 171 วัด พระภิกษุสามเณร 1,025 รูป และขอแนะแนวทางการป้องกันโรคดังนี้ หากโดนฝนให้รีบสรงน้ำ ทำความสะอาดร่างกายโดยเร็ว และเปลี่ยนจีวรทันที พกร่มขณะออกบิณฑบาต หลีกเลี่ยงการเดินในบริเวณน้ำท่วมขัง หมั่นล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดอยู่เสมอ และขอกราบอาราธนาพระภิกษุสงฆ์สามเณรที่ยังไม่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ที่โรงพยาบาลสงฆ์หรือสถานพยาบาลใกล้วัด
-ขอขอบคุณ- #โรงพยาบาลสงฆ์ #กรมการแพทย์ #น้ำท่วม 15 กันยายน 2567