กระทรวงสาธารณสุข เปิดศูนย์รับแจ้งอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั่วประเทศ อีก 16 หมายเลข ในเขตกทม.แจ้งที่ 082–7881619-20 ต่างจังหวัดแจ้งได้ที่ 082-7881621-34 เพื่อให้ประชาชนโทรแจ้งอาการตลอด 24 ชั่วโมง เผยตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2553 จนถึงวันนี้ พบอาการข้างเคียงเล็กน้อยหลังฉีดเพียง 8 ราย ยันวัคซีนรุ่นที่ไทยใช้ขณะนี้ มีการใช้ในต่างประเทศด้วย พบความปลอดภัยสูง ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงเช่นกัน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป คนอ้วนน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ผู้พิการที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังอายุ 6 เดือน-64 ปีในโรคปอดอุดกั้น หอบหืด และโรคหัวใจ ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2553 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ได้รับรายงานมีผู้รับวัคซีนแล้ว 15,011 ราย โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 11,189 ราย หญิงตั้งครรภ์ 1,971 ราย ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 1,705 ราย อย่างไรก็ตาม ยอดผู้รับการฉีดวัคซีนยังต่ำกว่าความเป็นจริงมาก เนื่องจากยังส่งรายงานไม่ครบ 76 จังหวัด ในสัปดาห์นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้กำชับให้ทุกจังหวัดที่ให้บริการฉีดวัคซีนแล้ว ส่งรายงานไปที่กรมควบคุมโรค เพื่อประเมินความครอบคลุม และติดตามผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ความปลอดภัยของประชาชน ถือเป็นนโยบายสำคัญที่สุดในการฉีดวัคซีนครั้งนี้ ได้ย้ำให้โรงพยาบาลทุกแห่งเฝ้าระวังความปลอดภัย โดยให้สังเกตอาการหลังฉีดวัคซีน 30 นาทีที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้าน และต้องให้คำแนะนำอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อกลับบ้านแก่ผู้รับบริการทุกราย และสามารถแจ้งอาการผิดปกติที่โรงพยาบาลที่รับบริการฉีดได้ 24 ชั่วโมง โดยในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดศูนย์รับแจ้งอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน หรือคอล เซ็นเตอร์ (Call Center) เพิ่มเติมอีก 16 หมายเลข ในเขตกทม.แจ้งที่หมายเลข 082–7881619-20 ต่างจังหวัดแจ้งได้ที่ 082-7881621-34 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนได้เข้าถึงบริการคำแนะนำอย่างเต็มที่ นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์จากการได้รับวัคซีน เป็นระบบมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติเหมือนกันทั่วโลก ซึ่งจะมีผลดีคือผู้ได้รับวัคซีนจะได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง ทันท่วงที และสามารถบอกสาเหตุอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น ว่าเกิดจากวัคซีนหรือไม่ เพื่อพัฒนามาตรฐานการจัดการที่เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 11– 15 มกราคม 2553 ได้รับรายงานเกิดอาการข้างเคียงเพียง 8 ราย โดยอาการไม่รุนแรง 7 ราย เช่น ไข้ต่ำๆ วิงเวียน ทุกรายหายเป็นปกติแล้ว มีเพียง 1 รายที่มีอาการปากด้านซ้ายเบี้ยวจากความผิดปกติของเส้นประสาทสมองเส้นที่ 7 ซึ่งพบได้ทั่วไปอยู่แล้วประมาณ 2 ใน 10,000 คน ขณะนี้ได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา คาดว่าอาการจะดีขึ้นใน 1–2 เดือน เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับวัคซีน เนื่องจากผู้ฉีดวัคซีนร่วมขวดเดียวกันอีก 9 รายเป็นปกติดี โดยวัคซีนที่ผลิตรุ่นเดียวกับที่ประเทศไทยใช้ มีการใช้ประเทศฝรั่งเศส มอนเตรเนโกร อิหร่านและมองโกเลีย พบว่าไม่มีรายงานผลข้างเคียงที่รุนแรงหลังฉีด จึงถือว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูง ประชาชนมีความมั่นใจได้ ***************************** 19 มกราคม 2553


   
   


View 27    19/01/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ