กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำ 10 ผลไม้ ที่เป็นสิริมงคล พร้อมชูสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน เช่น ส้ม แอปเปิ้ล องุ่น ทับทิม สาลี่ กล้วย ลิ้นจี่ สับปะรด มะม่วง และ มะละกอ เนื่องในเทศกาลสารทจีน
          นายแพทย์กุลธนิต วนรัตน์ ผู้อำนวยการกองการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตามปฏิทินทางจันทรคติ เทศกาลสารทจีนจะตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ถือเป็นวันสำคัญที่ลูกหลานชาวจีนจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยปีนี้ จะตรงกับวันที่ 18 สิงหาคม 2567 สำหรับ ชาวไทยเชื้อสายจีน นิยมใช้อาหารคาว และ อาหารหวานในการไหว้ เช่น ไก่ หมู เป็ด ไข่ หมึก ปลา ขนมเทียน ขนมเข่ง ขนมถ้วยฟู ขนมเปี๊ยะ ในส่วนผลไม้มงคลที่ใช้ไหว้ในวันสารทจีนมีหลายชนิด ล้วนแต่มีสรรพคุณตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน อีกด้วย 
          สำหรับ ผลไม้มงคลที่นิยมใช้ไหว้บรรพบุรุษในวันสารทจีน แต่ละชนิดจะมีสรรพคุณตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน ดังนี้ 1) ส้ม ช่วยไหลเวียนลมปราณ ขับเสมหะ กระตุ้นกระเพาะอาหาร 2) แอปเปิ้ล บำรุงกระเพาะอาหาร ม้าม แก้ท้องเสีย ดับกระหาย 3) องุ่น บำรุงลมปราณและเลือด เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก บำรุงตับ ถุงน้ำดี ขับปัสสาวะ 4) ทับทิม บรรเทาอาการไอ ลดเสมหะ บรรเทาอาการท้องเสีย 5) สาลี่ บรรเทาอาการไอ ลดเสมหะ ลดความร้อนในร่างกาย 6 )กล้วย ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก ลดความร้อนในร่างกาย 7) ลิ้นจี่ บำรุงเลือด ช่วยไหลเวียนลมปราณ ลดบวม 8) มะม่วง บำรุงกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการอาเจียน ขับปัสสาวะ ดับกระหาย  9)สับปะรด ลดความร้อนในร่างกาย ดับกระหาย ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ 10) มะละกอ ช่วยขับลม 
          นายแพทย์กุลธนิต กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากสรรพคุณของผลไม้ที่นำมาไหว้แล้ว ในวันสารทจีนการพบปะลูกหลานอาจมีการสังสรรค์รับประทานอาหารร่วมกัน บางครั้งการรับประทานอาหารมากเกินไปก็อาจมีปัญหาสุขภาพได้ตามศาสตร์การแพทย์จีน มีข้อแนะนำในการรับประทานอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้น ไม่ควรรับประทานอาหารต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และไม่รับประทานอาหารอิ่มจนเกินไป เพราะจะทำให้ม้าม และกระเพาะทำงานหนัก    ควรรับประทานอาหารในแต่ละมื้อโดยยึดหลักว่าเน้นมื้อเช้า มื้อกลางวันพออิ่ม มื้อเย็นให้น้อย ควรควบคุมอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง อาหารมัน มีรสจัด ควรเลือกรับประทาน ผัก ผลไม้ที่หวานน้อย เต้าหู้ และอาหารที่มีรสจืด นอกจากนี้ สามารถดื่มชาจีน เช่น ชาดอกคำฝอย (หงฮวา) ชาปัญจขันธ์ (เจียวกู้หลาน) และ ชาเก็กฮวย (จวี๋ฮวา) โดยใช้ชาในปริมาณ 3 กรัม ชงกับน้ำร้อน สามารถดื่มได้ทุกกลุ่มวัย และควรดื่มช่วงที่รับประทานอาหารที่มีไขมันที่สูงในช่วงเทศกาลสารทจีน

                           .............................................................16 สิงหาคม 2567.....................................................


 



   
   


View 339    16/08/2567   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก