สาธารณสุข ออกกฎหมายควบคุมมาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ในสถานพยาบาลทั่วประเทศ ต้องสอบขึ้นทะเบียนการประกอบโรคศิลปะ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยผู้เจ็บป่วยที่ต้องทำผ่าตัดหัวใจและและทรวงอก รวมทั้งผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องใช้เครื่องมือดูแล โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมได้ผ่านการเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา ที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้ สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก เป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ 3) เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยประชาชน เนื่องจากผู้สำเร็จสาขาวิชาชีพนี้ จะปฏิบัติงานเกี่ยวข้องการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงสมัยใหม่ ในการประคับประคองการทำงานของระบบการหมุนเวียนของโลหิตให้อยู่ในภาวะปกติระหว่างการทำผ่าตัดหัวใจและทรวงอก รวมทั้งใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ในการดูแลผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน ซึ่งตามกฎหมายฉบับนี้ผู้ที่จะประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลต่างๆทุกคนจะต้องสอบขึ้นทะเบียนการประกอบโรคศิลปะก่อน โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
ทางด้านนายแพทย์ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ผู้ที่จะขอขึ้นทะเบียนและใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ต้องมีความรู้ในวิชาชีพคือ ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกจากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาหัวใจและทรวงอกกำหนด สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ ซึ่งมิได้มีสัญชาติไทย หากจะสอบขึ้นทะเบียนประกอบวิชาชีพในประเทศไทย จะต้องแสดงใบได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะสาขาดังกล่าวจากต่างประเทศที่สำเร็จการศึกษามาด้วย
นายแพทย์ธารากล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก เป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ 2) ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2549 โดยเดิมนั้นได้ให้ผู้ที่จบสาขาอื่น เช่น แพทย์ พยาบาล หรือวิสัญญี ที่มีความรู้และประสบการณ์ทำงานในห้องผ่าตัด ห้องฉุกเฉิน หรือห้องปฐมพยาบาลมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และปฏิบัติงานในโรงพยาบาลที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก เป็นผู้รับรองมีสิทธิสอบขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก เนื่องจากมีผู้ที่จบด้านนี้โดยตรงไม่มากนัก โดยมีคณะกรรมการวิชาชีพสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก เป็นองค์กรหลักในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการประเมินความรู้ในด้านต่างๆ ของผู้ขอสอบขึ้นทะเบียนๆ ปัจจุบันมีผู้ประกอบวิชาชีพสาขานี้สอบขึ้นทะเบียนแล้วทั้งหมด 273 คน
ทั้งนี้ตามกฎหมายฉบับนี้ จะมีส่วนสนับสนนุให้ผู้ที่สนใจที่จะเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ได้เข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาที่ผลิตบุคลากรสาขานี้โดยตรง จะทำให้สามารถพัฒนามาตรฐานวิชาชีพต่อไปได้ และทำให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน
************************************* 12 พฤศจิกายน 2552
View 13
12/11/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ