คณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ เสนอของบกลางรับมือไข้หวัดใหญ่ 2009 ในช่วงฤดูหนาว เป็นเงิน 450 ล้านบาท ขณะนี้ไทยยังไม่พบการดื้อยาของเชื้อไวรัส และให้คงความเข้มข้นของมาตรการรักษาผู้ป่วย เน้นย้ำทีมแพทย์หากพบผู้ป่วยให้ยาต้านไวรัสทันที อย่ารอเกิน 3 วันหลังป่วย ตลอดรอบวันที่ 1-7 พ.ย. 2552 ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
บ่ายวันนี้ (11 พฤศจิกายน 2552) ที่ห้องประชุมอาคารรัฐสภา 3 พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ครั้งที่ 6/2552 โดยมีนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และตัวแทนจากกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อติดตามการบริหารจัดการ การป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เตรียมรับการระบาดในระลอกใหม่ในช่วงฤดูหนาว และพิจารณากิจกรรมต่างๆที่ขอรับการสนับสนุนจากงบกลาง
พลตรีสนั่นกล่าวว่า จากการประเมินผลสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในประเทศไทย โรคได้ขยายวงระบาดลงสู่ระดับอำเภอเกือบทุกอำเภอ ในรอบวันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2552 ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552- 7 พฤศจิกายน 2552 มี 184 ราย เท่าเดิม อัตราป่วยเฉลี่ยในประชาชนไทยทุก 1 แสนคน จะมีคนไทยป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 46 คน นอกจากนี้การตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พบทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดตามฤดูกาลและเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009
การประชุมในวันนี้ คณะกรรมการฯได้พิจารณากิจกรรมที่ขอรับการสนับสนุนจากงบกลาง รวมเป็นเงิน 450 ล้านบาท ใน 4 กิจกรรมหลักประกอบด้วย1.มาตรการทางสาธารณสุข ซึ่งประกอบด้วยมาตรการเฝ้าระวัง การจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทย์ เวชภัณฑ์ ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการพัฒนาเครือข่าย รวมเป็นเงิน 203.3 ล้านบาท 2. การสนับสนุนการทำงานของคณะทำงานบูรณาการเฝ้าระวังด้านชุมชน ด้านการท่องเที่ยว การเฝ้าระวังโรคในสัตว์ เฝ้าระวังในสถานศึกษาทั้งในกทม. ต่างจังหวัด และภารกิจของกระทรวงอื่นๆ รวมเป็นเงิน 205 ล้านบาท 3. สนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์ของกรมประชาสัมพันธ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 29.7 ล้านบาท และ4. สนับสนุนการเตรียมความพร้อมทางการแพทย์ รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท ส่วนการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมนั้น คณะทำงานด้านการแพทย์ จะปรึกษาหารือ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการฯอีกครั้ง
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาว 4 เดือนซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว จะมีการเคลื่อนที่ของประชาชนไทยและต่างประเทศค่อนข้างสูง จึงคาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ฯ กระจายไปทั่วประเทศ เนื่องจากทุกคนมีโอกาสเสี่ยงเพราะส่วนใหญ่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันโรคนี้ แต่ไม่ต้องการให้มีคนป่วยและเสียชีวิต ดังนั้นจึงเน้นย้ำประชาชนมีสวนร่วมการป้องกันควบคุมโรคให้มากที่สุด โดยให้ปิดปาก ปิดจมูกเมื่อไอหรือจาม ล้างมือ ทำความสะอาดจุดที่ประชาชนสัมผัสบ่อยๆ หลีกเลี่ยงไปสถานที่เสี่ยง และหยุดกิจกรรม หยุดเรียน หยุดทำงานหากป่วย
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข คณะอนุกรรมการวิชาการฯมีการประชุมติดตามประเมินผลทุกวันจันทร์ พบว่ายังไม่มีการดื้อยาของเชื้อไวรัส ให้สถานบริการทุกแห่งคงความเข้มข้นของมาตรการในการรักษาผู้ป่วย เช่น เน้นการแยกผู้ป่วย การล้างมือ การคาดหน้ากากอนามัยเมื่อเป็นหวัด และหากป่วยเป็นไข้หวัดให้หยุดรักษาตัวในบ้าน และเน้นย้ำแพทย์หากพบผู้ป่วย ให้ยาต้านไวรัสทันที ไม่ต้องรอจนเกิน 3 วันหลังป่วย เพราะยาจะให้ผลดีหลังป่วยไม่เกิน 72 ชั่วโมง และจำนวนยาต้านไวรัสมีเพียงพอรองรับผู้ป่วยได้ถึง 3 ล้านคน
สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก โรคยังคงมีการระบาดต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 องค์การอนามัยโลกได้รายงานมีผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 482,300 ราย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6,071 รายภูมิภาคที่มีรายงานมากที่สุดคือแถบอเมริกา ป่วย 185,067 ราย เสียชีวิต 4399 ราย ภูมิภาคที่จำนวนผู้ป่วยรองลงมาคือแปซิฟิกตะวันตกป่วย 138,288 ราย เสียชีวิต 498 ราย ภูมิภาคยุโรปป่วยมากกว่า 78,000 ราย เสียชีวิตอย่างน้อย 300 ราย ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีรายงานป่วย 44,147 ราย เสียชีวิต 661 ราย
************************************* 11 พฤศจิกายน 2552
View 13
11/11/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ