สาธารณสุขจัด 2 โครงการใหญ่สนองน้ำพระทัยในหลวง ให้ทุกจังหวัดรณรงค์ตรวจสุขภาพผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ค้นหาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2552 เพื่อนำมาดูแลรักษาต่อเนื่องป้องกันโรคแทรกซ้อน และขยายหน่วยฟอกไตลงสู่โรงพยาบาลชุมชนที่มีความพร้อม รณรงค์การบริจาคไต เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา
วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป เพื่อมอบนโยบายการรณรงค์สร้างสุขภาพประชาชน ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ซึ่งในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ 2 โครงการใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศ ประกอบด้วย โครงการสนองน้ำพระทัยในหลวง ทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน ระยะที่ 1 และโครงการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังแบบครบวงจร
นายวิทยากล่าวว่า โครงการสนองน้ำพระทัยในหลวง ทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน ระยะที่ 1 กระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการตรวจสุขภาพประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมีประมาณ 45 ล้านคน เพื่อคัดกรองหาโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน 5 ธันวาคม 2552 ให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ร่วมกับ อสม.กว่า 9 แสนคน ดำเนินการ ตั้งเป้าหมายครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 เมื่อคัดกรองได้แล้วจะขึ้นทะเบียน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยงป่วย และคนป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน ทุกกลุ่มจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมต่อเนื่องเพื่อลดคนป่วยรายใหม่ และป้องกันไม่ให้มีปัญหาแทรกซ้อน ในส่วนกลางจะจัดงานรณรงค์ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันที่ 5 ธันวาคม 2552
ในส่วนของโครงการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังครบวงจรนั้น เนื่องจากขณะนี้มีคนไทยป่วยเป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายประมาณ 30,000 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุประมาณร้อยละ 80 เป็นโรคแทรกซ้อนเกิดมาจากโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ขณะนี้ผู้ป่วยไตวายดังกล่าวขึ้นทะเบียนมีสิทธิฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียมในโครงการหลักประกันสุขภาพ 8,895 ราย และฟอกไตผ่านทางช่องท้อง 3,557 ราย จากการติดตามพบว่าผู้ป่วยยังเข้าไม่ถึงบริการที่ควรจะเป็น เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัด และค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงหากอยูในภาคเอกชน
จากปัญหาดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายพัฒนาระบบบริการ ให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังเข้าถึงบริการง่ายขึ้น และได้รับการดูแลครบวงจร มีคุณภาพมาตรฐาน โดยจะเพิ่มระบบการตรวจคัดกรองในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับไต กลุ่มที่เสียเลือดจำนวนมากซึ่งมีความเสี่ยงไตวาย และจัดระบบขึ้นทะเบียนเพื่อฟอกเลือดใกล้บ้านที่สุด จะคัดเลือกโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม ทั้งแพทย์ พยาบาล และอุปกรณ์ เพื่อให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมหรือทางช่องท้องเพิ่มอีกหลายแห่ง และให้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป รณรงค์การบริจาคไตในผู้ป่วยที่ใกล้จะเสียชีวิต เพื่อปลูกถ่ายไตให้ผู้ป่วยไตวาย ซึ่งเป็นวิธีรักษาผู้ป่วยไตวายวิธีสุดท้าย และประเทศไทยยังทำเรื่องนี้ค่อนข้างน้อย
****************************** 11 พฤศจิกายน 2552
View 18
11/11/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ