“วิทยา” ให้คน สธ.ช่วยกันปัดมลทินโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อขับเคลื่อนงานได้เร็วขึ้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน ร่วมกันเฝ้าระวังความไม่ชอบมาพากลโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อสะสางปัญหาให้จบสิ้น ให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้โดยเร็ว เพื่อผลประโยชน์ประชาชน หากมีเบาะแสขอให้แจ้งตรงที่คณะกรรมการตรวจสอบ 2 ชุดที่ตั้งขึ้น วันนี้ (14 ตุลาคม 2552) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ หัวหน้าสถานีอนามัยที่จะพัฒนาเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เพื่อชี้แจงการขับเคลื่อนโครงการไทยเข้มแข็ง พ.ศ. 2553-2555 ของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้งบ 86,000 ล้านกว่าบาท นายวิทยา ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมในวันนี้ ได้ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน ร่วมกันตรวจสอบความไม่ชอบมาพากล การทุจริตโครงการไทยเข้มแข้ง เพื่อสร้างความเชื่อประชาชนให้ได้ว่าเป็นกระทรวงธรรมาภิบาล ซึ่งได้เน้นการกระจายอำนาจให้ทุกจังหวัด ถึงระดับตำบลร่วมบริหารจัดการงบที่ได้ ยืนยันว่างบทั้งหมดขณะนี้ยังไม่มีการนำมาใช้ หากเจ้าหน้าที่มีเบาะแส ให้แจ้งเรื่องไปที่คณะกรรมการตรวจสอบ 2 ชุดที่ตั้งขึ้น คือชุดตรวจสอบเครื่องมือที่เป็นข่าวคือชุดของนายแพทย์ เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการกระทวงสาธารณสุขเป็นประธาน และชุดทบทวนความเหมะสมของรายการคำขอทั้ง7,400 รายการที่มีรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ซึ่งได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มผู้แทนของสถานีอนามัย ร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย หรือแจ้งตรงที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือที่นายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะช่วยกันสะสางปัญหา ทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว สามารถขับเคลื่อนโครงการไทยเข้มแข็งตามนโยบายรัฐบาลต่อไปได้ สำหรับกรณีที่ผลสอบของคณะกรรมการที่ไม่สามารถบอกชื่อผู้ที่ทุจริตโครงการไทยเข็มแข็งได้ นายวิทยากล่าวว่า โดยระบบผู้ที่แถลงข่าวไม่สามารถประกาศรายชื่อได้ เนื่องจากกลัวถูกฟ้องร้อง และต้องเปิดโอกาสผู้ที่ถูกพาดพิงออกมาชี้แจงคณะกรรมการก่อน อย่างไรก็ดีจะหามาตรการ ที่รวดเร็วกว่านี้ และได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเมื่อวานนี้ ให้ความเห็นว่า หากเป็นข้าราชการประจำ กระทรวงสาธารณสุขสามารถดำเนินการเองได้ แต่หากเป็นนักการเมือง หรือข้าราชการที่เกษียณไปแล้ว ก็อาจใช้กระบวนการทางกฎหมายที่มีอยู่ เช่น สตง. ปชช. หรือดีเอสไอ แต่จากที่ได้รับรายงานเมื่อวานนี้ ไม่ปรากฏรายชื่อฝ่ายการเมือง เกี่ยวข้องการทุจริต ทางด้าน นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในฐานะปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินงานทุกเรื่องให้เกิดความเป็นธรรม จะหารือกับคณะกรรมการชุดของนายแพทย์เสรี หงษ์หยก และผู้อำนวยการกลุ่มเสริมสร้างวินัยและระบบคุณธรรม มาร่วมกันวางแนวทางในการทำงาน เพื่อใช้งบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน “ต้องขอขอบคุณชมรมแพทย์ชนบท ที่ออกมาพูดเรื่องนี้จะได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ในแง่ของกระทรวงสาธารณสุขไม่ห่วงว่าใครจะคิดหรือพูดอย่างไรแต่ห่วงว่าคนกระทรวงสาธารณสุขจะอยู่อย่างไร และจะดำเนินการต่อไปอย่างไรให้มีความสุขในการทำงานอย่างเต็มที่ และต้องการให้ประชาชนมองกระทรวงฯ ด้วยความรู้สึกดี ๆ รักและศรัทธาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเหมือนในอดีต” นายแพทย์ไพจิตร์กล่าว ****************************** 14 ตุลาคม 2552