กระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนคนไทยอย่าประมาทไข้หวัดใหญ่ 2009 ชี้โรคยังแพร่กระจายทุกพื้นที่ตลอดเวลา เฉลี่ยแล้วในประชาชนไทยทุกๆ 1 แสนคน จะมีคนติดเชื้อโรคนี้ได้ 38 คน เร่งเพิ่มศักยภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยของแพทย์ พยาบาล ให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามมาตรการ 2 ลด 3 เร่งอย่างเคร่งครัดใน 3 กลุ่ม คือโรงพยาบาล สถานีอนามัย และในกลุ่มประชาชน เพื่อลดการเสียชีวิตของผู้ป่วย
วันนี้ (28 กันยายน 2552) ที่โรงแรมอมารีดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการอบรมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้รับผิดชอบงานด้านโรคติดต่อที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน สำนักงานควบคุมป้องกันโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดใน 16 จังหวัดภาคกลาง รวมทั้งสำนักอนามัย และสำนักการแพทย์สังกัด กทม. จำนวน 400 คน เพื่อพัฒนาศักยภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 เพื่อลดการเสียชีวิตให้น้อยที่สุด
นายมานิตกล่าวว่า การดำเนินงานควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่งก็ตาม แต่เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่ในโลกและระบาดต่อเนื่องเป็นเวลา 5 เดือน เชื้อไวรัสก่อโรคยังเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้กันใหม่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นมาตรการรับมือการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย จะต้องปรับปรุงและปรับเปลี่ยนตามองค์ความรู้ใหม่ที่ได้ ซึ่งโรงพยาบาลเป็นหน่วยบริการสาธารณสุขที่มีโอกาสพบผู้ป่วยเป็นลำดับแรกๆ และมีความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง จะสามารถตรวจจับการระบาดของโรคได้ และให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม จะทำให้ผู้ป่วยรอดชีวิตหายเป็นปกติได้
ล่าสุด องค์การอนามัยโลกคาดการณ์เมื่อ18 กันยายน 2552 ว่า มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั่วโลกอย่างน้อย 296,471 คน เสียชีวิตอย่างน้อย 3,486 คน มากที่สุดที่ทวีปอเมริกา 2,625 คน ในส่วนของไทยมีผู้เสียชีวิตจนถึงวันที่ 23 กันยายน 2552 ทั้งหมด 160 ราย โดยแนวโน้มการเสียชีวิตลดลง ในภาพรวมทั้งประเทศขณะนี้ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังคงแพร่กระจายทุกพื้นที่ต่อเนื่อง เฉลี่ยแล้วในประชากรไทยทุกหนึ่งแสนคน จะพบผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 ประมาณ 38 คน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนปฏิบัติตัวดูแลตนเองป้องกันไม่ให้ป่วย และเมื่อป่วยแล้วต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายสู่คนอื่นตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มช่องทางเผยแพร่ความรู้ผ่านทางวิทยุชุมชนแล้วกว่า 4,000 แห่ง และยังเปิดสายด่วนไข้หวัดใหญ่ 1422 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด
นายมานิตกล่าวด้วยว่า ได้มอบนโยบายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ควบคุม กำกับ สถานพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่ ให้ดำเนินตามมาตรการ 2 ลด 3 เร่ง อย่างเข้มข้น เน้นใน 3 กลุ่มหลัก กลุ่มแรก คือ กลุ่มแพทย์ พยาบาล ในโรงพยาบาล ขอให้ติดตามดูแลให้มีการปฏิบัติตามแนวทางการรักษาพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด กลุ่มที่ 2 คือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสถานีอนามัย ซึ่งเป็นสถานบริการด่านแรกของประชาชนในเขตชนบท ให้เร่งรัดเสริมความรู้เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้อย่างทั่วถึง เพื่อให้สามารถคัดกรองผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง และกลุ่มที่ 3 คือ ประชาชนทั่วไป ให้เน้นย้ำมาตรการป้องกันการติดเชื้อ ได้แก่ การล้างมือและการใช้หน้ากากอนามัยเมื่อป่วยเป็นหวัด รวมทั้งการดูแลตนเองเบื้องต้น และไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็วหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ ขอให้แต่ละจังหวัดจัดทำฐานข้อมูลกลุ่มบุคคลและพื้นที่เสี่ยงเกิดการแพร่ระบาด เพื่อเข้าไปดูแลเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด
***************** 28 กันยายน 2552
View 13
28/09/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ