รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเขต 6 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ให้พร้อมรับมือการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก ป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ เนื่องจากมีสัญญาณเตือนหลังพบมีผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เกิน 1,000 คน ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
วันนี้ (21กันยายน 2552) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ใน 6 จังหวัด ภาคเหนือตอนล่างได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร และอุทัยธานี เพื่อติดตามกำกับการดำเนินงานของพื้นที่ตามยุทธศาสตร์ 2 ลด 3 เร่ง เพื่อควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่กำลังแพร่ระบาดในเขตชนบทอย่างจริงจัง รวมทั้งให้เฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกที่เกิดในสัตว์ปีก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เคยพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกมาก่อน เพื่อป้องกันเชื้อไม่ให้มีการผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่างไข้หวัดใหญ่กับโรคไข้หวัดนก ซึ่งทั้ง 2 โรค มีโอกาสระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว รวมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างหนักหลังเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 มาเป็นเวลาเกือบ 5 เดือน ซึ่งจะได้หารือมาตรการรายละเอียดต่อไป
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศไทย โดยรวมถือว่าชะลอตัวลง แม้ว่าจะดูเหมือนยังเงียบๆอยู่ เนื่องจากการระบาดผ่านจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางเช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดใหญ่ๆ ไปแล้ว ขณะนี้เข้าสู่เขตชนบท คาดว่าการระบาดจะรวดเร็วใน 100 วันข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสำคัญของไทย เช่น งานบุญออกพรรษา เผาเทียนเล่นไฟ แข่งเรือ จึงต้องร่วมกันรับมืออย่างเต็มที่ เพื่อลดความเสียหายต่อชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจ
สำหรับสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ฯ ในเขตภาคเหนือ พบผู้ป่วยหนาแน่นในเขตภาคเหนือตอนล่าง 6 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี สุโขทัย พิษณุโลก มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมาจนถึงขณะนี้รวม 23 คน คือที่จ .สุโขทัย 7 คน จ.พิษณุโลก 5 คน นครสวรรค์และพิจิตรจังหวัดละ 3 คน อุทัยธานีและกำแพงเพชรจังหวัดละ 1 คน และมีสัญญาณเตือนที่สำคัญว่าโรคอาจจะระบาดได้ โดยพบว่าในช่วง 2 สัปดาห์นี้ มีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หนาแน่นมากกว่า 1,000 คนต่อจังหวัด จึงต้องเตรียมการรับมืออย่างเข้มข้นเพราะคนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 ยังไม่มีภูมิต้านทานโรคนี้ ขณะนี้มีอำเภอเพียงร้อยละ 9.5 ที่ยังไม่มีผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ฯ
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ทุกจังหวัดเปิดวอร์รูมไข้หวัดใหญ่ 2009 มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อบริหารยุทธศาสตร์ 2 ลด 3 เร่ง คือลดตาย ลดติดเชื้อและลดป่วย เร่ง อสม.ให้ความรู้ประชาชน เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตื่นตัว และเร่งบริหารจัดการระดมความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งนี้ได้ให้โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไปของทุกจังหวัด ตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญออกให้คำปรึกษาแก่แพทย์โรงพยาบาลชุมชนที่ส่วนใหญ่เป็นแพทย์จบใหม่ รายใดที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรง เช่น หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วน ผู้สูงอายุ เด็กเล็กผู้ที่มีโรคประจำตัวทุกโรค ให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ทันที ไม่ต้องรอผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ส่วนที่สถานีอนามัยซึ่งเป็นต้นทางที่ผู้ป่วยมาพบ ขอให้รีบส่งตัวผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ทันที
***************************** 21 กันยายน 2552
View 9
21/09/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ