กระทรวงสาธารณสุข แจงการจัดซื้อครุภัณฑ์ในโครงการไทยเข้มแข็งไม่มีการล็อคสเปค เพราะให้แต่ละจังหวัดดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเอง ให้สอดคล้องตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ สามารถตรวจสอบความโปร่งใสได้ทุกขั้นตอน โดยเน้นดำเนินการตามระเบียบพัสดุของกระทรวงการคลัง
จากกรณีที่มีกระแสข่าว การทุจริตการจัดซื้อเครื่องทำลายเชื้อโรคด้วยระบบแสงอัลตร้าไวโอเลตแบบระบบปิด ให้กับทุกจังหวัดๆ ละ 15 เครื่อง ราคาเครื่องละ 40,000 บาท ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณทั้งหมด 86,000 ล้านบาทนั้น
แพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2) ทั้งหมด 23 โครงการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติงบประมาณ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 เป็นจำนวน 86,685.61 ล้านบาท ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดตั้งสำนักงานบริหารโครงการไทยเข้มแข็ง 2555 ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานระดับภูมิภาคกับหน่วยงานส่วนกลาง รวมทั้งกำกับ ติดตาม รายงานความก้าวหน้าและ ประเมินผลการดำเนินงาน การเบิกจ่ายงบประมาณ ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามระเบียบราชการ
ด้านนายแพทย์คำรณ ไชยศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการไทยเข้มแข็ง 2555 กล่าวว่า ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการไทยเข้มแข็งนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบนโยบายให้แต่ละพื้นที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างรวมทั้งกำหนดสเปกของครุภัณฑ์เอง เพื่อให้สามารถเลือกสิ่งที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่มากที่สุด ดังนั้นจึงไม่มีการกำหนดสเปคจากส่วนกลาง โดยทางสำนักงานบริหารโครงการฯ ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่เดินทางไปชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้รับผิดชอบดำเนินการทั้ง 4 ภาค เพื่อให้มีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง สำหรับราคาเครื่องทำลายเชื้อโรคด้วยระบบแสงอัลตร้าไวโอเลตแบบระบบปิด ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ให้ไปนั้น เป็นเพียงราคางบประมาณที่สามารถจัดซื้อได้ ซึ่งทุกจังหวัดไม่จำเป็นต้องจัดซื้ออุปกรณ์ชนิดนี้ในราคาที่ให้ไป หากมีบริษัทที่เสนอราคามาต่ำกว่าก็สามารถจัดซื้อได้ และหากมีเงินเหลือต้องส่งคืนบัญชีไทยเข้มแข็งกระทรวงการคลัง
ซึ่งความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องดังกล่าว ขณะนี้ได้ทำหนังสือให้แต่ละจังหวัดเตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมทั้งจัดส่งเอกสารประมาณราคากลางและสเปกมาให้ส่วนกลางเพื่อขออนุมัติเงินจากสำนักงบประมาณ โดยจะต้องมีบริษัทที่เป็นผู้ผลิตเข้าเสนอราคาอย่างน้อย 2 - 3 บริษัท เพื่อป้องกันการล็อคสเปค ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่ www.tkk2555.com และขอให้เจ้าหน้าที่ที่ทำการจัดซื้อจัดจ้าง ปฏิบัติตามระเบียบพัสดุของกระทรวงการคลังอย่างเคร่งครัด ไม่ต้องเชื่อการกล่าวอ้างจากบริษัทใดๆ ทั้งสิ้น นายแพทย์คำรณ กล่าวในตอนท้าย
***************************** 21 กันยายน 2552
View 15
21/09/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ