กระทรวงสาธารณสุข ประเมินผลการทำงานด้านสาธารณสุขของทุกจังหวัดประจำปี พบภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ปี 2553 เน้นการทำงาน 4 เรื่อง ได้แก่ การพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ส่งเสริมการทำงานของอสม.ในการดูแลกลุ่มพึ่งพิงและด้อยโอกาส รณรงค์พฤติกรรมสุขภาพดี ลดโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขและงานอนามัยแม่และเด็ก การใช้จ่ายงบประมาณตามหลักธรรมาภิบาล และจัดตั้งศูนย์สันติวิธีเพื่อแก้ไขปัญหาการฟ้องร้อง
วันนี้ (16 กันยายน 2552) ที่โรงแรมเจริญศรี แกรนด์ จ.อุดรธานี นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมสรุปผลและพัฒนาบุคลากรตรวจราชการและนิเทศงานกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2552 เพื่อนำข้อมูลจากการตรวจราชการและนิเทศงานไปวางแผนดำเนินงานแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่ โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป คณะอนุกรรมการวิเคราะห์และติดตามผลการตรวจราชการ คณะตรวจราชการและนิเทศงาน รวม 2,000 คนเข้าร่วมประชุม
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้ปี 2552 เป็นปีแห่งการตรวจราชการแบบบูรณาการเพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ มุ่งเน้นยกระดับความเข้มแข็งของระบบควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน เสริมสร้างหลักจริยธรรมและธรรมาภิบาลให้เข้มแข็ง โดยในการตรวจราชการและนิเทศงานปกติระดับกระทรวง แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ การตรวจราชการร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 โครงการ และตรวจราชการและนิเทศงานกรณีปกติ จำนวน 13 แผนงาน ซึ่งแผนการตรวจราชการ 2 ส่วนนี้ เป็นเครื่องมือในการติดตาม กำกับและประเมินผลงานตามนโยบายของรัฐบาล ในหน่วยงานส่วนภูมิภาคและระดับจังหวัด
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากปัญหาด้านสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน และเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยสิ่งแวดล้อมตลอดเวลา เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้กำหนดให้ทุกจังหวัดเร่งรัดดำเนินการ 6 เรื่อง ได้แก่ 1.การหยุดยั้งวัณโรค 2.โรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว 3.การส่งต่อผู้ป่วย 4.อาหารปลอดภัย 5.การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และ 6.การตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ซึ่งผลการปฏิบัติงานในภาพรวมของจังหวัด ปีงบประมาณ 2552 พบว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนใหญ่ทำได้ครบถ้วนตามเป้าหมายที่กระทรวงฯ กำหนดไว้
ด้านนายแพทย์ชูวิทย์ ลิขิตยิ่งวรา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การตรวจราชและนิเทศงานในปี 2553 จะยึดแนวทางตามนโยบายของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และปัญหาสุขภาพที่คนไทยประสบอยู่ โดยเน้นหนัก 4 เรื่อง คือ 1.พัฒนาระบบบริการสุขภาพภาครัฐทุกระดับให้ได้มาตรฐาน ยกระดับสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาลตำบล เน้นป้องกันส่งเสริมสุขภาพให้มากขึ้นเป็นร้อยละ 75 ที่เหลือเป็นงานบำบัด รักษาและฟื้นฟู 2.ส่งเสริมการทำงานเชิงรุกของ อสม. ในพื้นที่ โดยเฉพาะดูแลกลุ่มพึ่งพิง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ เด็กแรกเกิด ผู้พิการและผู้สูงอายุ 3.รณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและลดโรคที่เป็นปัญหาสำคัญ คือ วัณโรค มาลาเรีย และงานอนามัยแม่และเด็ก และ 4.สร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ โดยตั้งศูนย์สันติวิธีในทุกจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ในการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรในพื้นที่ จะมีการติดตาม ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา ทั้งงบปกติและงบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ มีผลผลิตออกสู่ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล
*************************16 กันยายน 2552
View 18
16/09/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ