สธ. ตั้งหน่วยงาน พัฒนาคุณธรรม-จริยธรรม บุคลากรกว่า 2 แสนคน มีจิตสำนึกใฝ่ดี เอื้ออาทรผู้ป่วย

กระทรวงสาธารณสุข ตั้งหน่วยงานแก้วกัลยาสิกขาลัย ทำหน้าที่พัฒนาคุณภาพบุคลากรสาธารณสุข ให้มีจิตสำนึกเต็มเปี่ยมด้วยคุณธรรมจริยธรรม บริการดูแลผู้ป่วยด้วยความเอื้ออาทร ใช้หลักธรรมดำเนินชีวิตครอบครัว หนุนทุกจังหวัดตั้งชมรมจริยธรรมครอบคลุมถึงระดับอำเภอ ตั้งเป้าให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปีนี้ วันนี้ (9 กันยายน 2552) เวลา 15.30น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดประชุมวิชาการ พัฒนาจริยธรรมกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 4 ประจำปี 2552 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. ปีนี้เน้นเรื่อง “สติคิด จิตเป็นสุข สาธารณสุขถ้วนทั่ว ครอบครัวคุณธรรม” จัดโดยคณะกรรมการดำเนินงานพัฒนาจริยธรรม กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานแก้วกัลยาสิกขาลัย สถาบันพระบรมราชชนก ระหว่างวันที่ 9 – 11 กันยายน 2552 มีผู้เข้าร่วมประชุม 1,800 คน เพื่อนำเสนอผลงานเด่นด้านคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งจะเป็นแนวทางพัฒนาตนเอง และพัฒนาองค์กรให้เป็นที่รักและศรัทธาของประชาชน พร้อมประทานโล่แก่ คนดีศรีสาธารณสุข จำนวน 51 ราย และหน่วยงานที่มีการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น จำนวน 70 หน่วยงาน โดยมีนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ผู้บริหาร ข้าราชการและประชาชน เฝ้ารับเสด็จ นายวิทยา ได้กราบทูลถวายรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขเห็นความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่จะสนับสนุนให้บุคลากรในสังกัดกว่า 2 แสนคนทั่วประเทศ ได้รับการพัฒนาทางคุณธรรมจริยธรรม มีจรรยาบรรณที่ดีงาม มีจิตใจที่เป็นสุข สามารถปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และให้บริการประชาชนด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ดูแลผู้ป่วยด้วยความเอื้ออาทรเสมือนดูแลญาติใกล้ชิด โดยได้ตั้งแก้วกัลยาสิกขาลัย สังกัดสถาบันพระบรมราชชนก เป็นหน่วยงานหลักเพื่อทำหน้าที่พัฒนาบุคลากรทุกระดับในด้านคุณธรรมจริยธรรมโดยเฉพาะ ในการพัฒนาดังกล่าว ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2550-2554 ใน 5 เรื่องใหญ่ ได้แก่ 1.การสร้างเสริมคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงามให้เป็นวิถีชีวิต 2.การส่งเสริมต้นแบบทางวัฒนธรรมและกระบวนการเรียนรู้ค่านิยมของบุคลากร 3.การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามในสังคมสาธารณสุข 4.การสร้างเสริมคุณธรรมและระบบธรรมาภิบาลในองค์กร และ 5.การพัฒนาการมีส่วนร่วม เพิ่มความเข้มแข็งของภาคีเครือข่ายและทุกภาคส่วนของสังคม โดยภายในปี 2552 ตั้งเป้าให้มีชมรมจริยธรรมในระดับอำเภอ ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 50 ในทุกจังหวัด ขณะนี้มีชมรมจริยธรรมเกิดขึ้นแล้วจำนวน 608 ชมรม เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ ในส่วนของประชาชน ได้จัดทำโครงการจิตอาสาในโรงพยาบาล เพื่อดึงวัฒนธรรมสังคมไทยที่มีความเอื้อเฟื้อห่วงใยกัน มาดูแลช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ป่วยในโรงพยาบาลตามศักยภาพที่จะช่วยได้ โดยเฉพาะเด็กๆ จะทำให้เป็นผู้มีความเมตตา มีจิตใจอ่อนโยนและมีความเสียสละ ช่วยเหลือสังคมต่อไป ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ มีพระดำรัสในการเปิดประชุมว่า จริยธรรม คือธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ ที่มีความสำคัญอย่างมากในการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ การงาน และการอยู่ร่วมในสังคม เนื่องจากจริยธรรมเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนอยู่ภายในจิตใจของบุคคล ที่ไม่อาจควบคุมได้ด้วยกฎระเบียบหรือข้อบังคับใดๆ แต่สามารถควบคุมได้ด้วยจิตสำนึกของบุคคลนั้นๆ เอง และควรพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านวิชาการ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนผู้รับบริการตลอดถึงประเทศชาติ ****************************9 กันยายน 2552