รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พอใจผลงานรณรงค์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ของอสม.กว่า 970,000 คนทั่วประเทศ สามารถให้การดูแลผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มปกติได้รวมกว่า 2 ล้านคน ในจำนวนนี้พบมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ ต้องส่งตัวพบแพทย์ในโรงพยาบาลเพื่อตรวจละเอียดรวมทั้งหมด 54,433 คน โดยเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วน จำนวน 44,258 คน ในจำนวนนี้มีอาการรุนแรง 3,705 คน โดยจะให้อสม.ปฏิบัติต่อเนื่องจนถึงเดือนธันวาคม 2552 วันนี้ (1 กันยายน 2552) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมมอบนโยบาย อสม.ในเขตจังหวัดภาคกลาง ที่โรงแรมโนโวเทล จังหวัดระยอง ว่า หลังจากกระทรวงสาธารณสุขได้ให้อสม.ทั่วประเทศที่มีกว่า 970,000 คน เป็นแกนนำรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ และทำการตรวจคัดกรองผู้ที่มีอาการป่วยด้วยไข้หวัดในหมู่บ้านรับผิดชอบ คนละ 10-15 หลังคาเรือน ทุกวันจันทร์ วันพุธและวันศุกร์ ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2552 เป็นต้นมา พบว่าได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง นายวิทยา กล่าวว่า จากรายงานอย่างไม่เป็นทางการใน 61 จังหวัด อสม.ได้ออกเยี่ยมบ้านรวมทั้งหมด 2,307,964 คน ประกอบด้วย ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป้าหมาย เช่น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคตับ โรคไต มะเร็ง โรคเลือด หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ คนอ้วน ผู้สูงอายุ จำนวน 1,991,698 คน พบผู้ที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่และส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ 44,258 คน หรือประมาณร้อยละ 2 โดยมีอาการรุนแรง 3,705 คน ส่วนในกลุ่มปกติทั่วไป พบมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ทั้งหมด 316,266 คนในจำนวนนี้มีอาการรุนแรงต้องส่งตัวพบแพทย์ในโรงพยาบาลรวม 10,175 คน รวมแล้วผลการออกปฏิบัติการของอสม.ครั้งนี้ ได้ค้นพบผู้ที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ในหมู่บ้านต่างๆ ที่ต้องส่งตัวเข้าพบแพทย์ในโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดรวมทั้งหมด 54,433 คน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ แต่ทำให้เราสามารถคัดกรองผู้ป่วยในหมู่บ้านไปรักษาและเฝ้าระวังสถานการณ์ในหมู่บ้านได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้สามารถลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้เป็นอันมาก โดยได้ขอความร่วมมือให้อสม.ทั่วประเทศ ปฏิบัติการต่อเนื่องไปจนถึงเดือนธันวาคม 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเริ่มหนาวเย็น และจะประเมินผลต่อไป ทางด้าน ดร. นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การทำงานของกองทัพอสม.ของประเทศไทย เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ครั้งนี้ นับเป็นประเทศเดียวในโลกที่สามารถดำเนินการได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะพัฒนาระบบการทำงานของอสม.ให้เกิดประสิทธิภาพ และมีการประเมินผลอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งจะทำให้กลไกการแก้ไขปัญหาสุขภาพของประเทศไทยเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยในเบื้องต้นจะจัดประชุมหารือกับอสม.ในภาคกลาง เพื่อกำหนดรูปแบบการพัฒนาการทำงาน โดยเฉพาะระบบการป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพดี รวมทั้งการสนับสนุนทางวิชาการและเครื่องมือการทำงานให้แก่อสม.ด้วย *** ******************************** 1 กันยายน 2552


   
   


View 18    01/09/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ