กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงวัย 31 ปี ตั้งครรภ์ 5 เดือน ที่จังหวัดเชียงใหม่ คาดทราบผล 1-2 วันนี้ พร้อมย้ำเตือนประชาชนที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และได้รับยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ขอให้กินยาให้ครบ 5 วัน ชี้ยานี้อาจมีผลข้างเคียงบ้าง ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพการรักษา ป้องกันเชื้อดื้อยา
จากกรณีที่มีหญิงวัย 31 ปี ตั้งครรภ์ 5 เดือน ชาวอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เสียชีวตโดยไม่ทราบสาเหตุ ระหว่างเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลแมคคอมิค ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิตบอกว่าก่อนเสียชีวิตผู้ตายมีไข้สูง ญาติจึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตระหว่างเดินทาง ในเบื้องต้นโรงพยาบาลแมคคอมิคระบุว่าผู้เสียชีวิตรายนี้เพราะปอดอักเสบอย่างรุนแรงนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารรณสุข ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ลงสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงตั้งครรภ์รายนี้เป็นการด่วน เพื่อควบคุมโรค จากที่ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตรายนี้ป่วยเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2552 ด้วยอาการไข้ ไอ และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแมคคอมิค เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2552 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2552 ในเบื้องต้นยังไม่ยืนยันว่าเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ซึ่งเชื้อที่เป็นสาเหตุของปอดอักเสบมีทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ต้องรอผลการตรวจยืนยันทางกห้องปฎิบัติการ ซึ่งจะทราบใน 1-2 วันนี้
นายแพทย์สุพรรณ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งกระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ เพื่อให้ประชาชนที่ป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และจำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสฯโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการเสียชีวิต โดยได้กระจายยาไปโรงพยาบาลต่างๆทั้งภาครัฐเอกชนประมาณ 1,200 แห่งทั่วประเทศ และกระจายไปยังคลินิกที่เข้าร่วมโครงการทั้งในกทม.และต่างจังหวัดด้วย ต้องขอความร่วมมือประชาชนในรายที่แพทย์ให้กินยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ขอให้กินยาให้ครบสูตรคือ 5 วันตามแพทย์ ซึ่งยาดังกล่าวมีผลข้างเคียงที่มักพบได้เหมือนกันทั่วโลก ได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ ท้องเสีย ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพในการรักษา และป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่ การกินยาไม่ครบจะทำให้เชื้อมีปัญหาดื้อยา ส่งผลให้การรักษามีความยุ่งยากขึ้น หรือทำให้เชื้อมีความรุนแรงขึ้นไปอีก ทั้งนี้วิธีลดอาการข้างเคียงของยาต้านไวรัสฯดังกล่าว ขอให้ประชาชนกินยาพร้อมอาหาร ก็ช่วยบรรเทาอาการได้
ทางด้านนายแพทย์ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองโรคประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ขณะนี้กองการประกอบโรคศิลปะ ยังเปิดรับสมัครคลินิกในกทม.เข้าร่วมโครงการ เพิ่มศักยภาพสร้างแนวทางการรักษาและควบคุมไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวานนี้ได้จัดอบรมคลินิกไปแล้ว 181 แห่ง และสมัครเข้าร่วมโครงการจ่ายยาต้านไวรัสฯไปแล้ว 31 แห่ง และเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งคลินิกที่ได้รับยาต้านไวรัสจะต้องติดป้ายหรือสติกเกอร์ว่าเป็นเครือข่ายรักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนรับทราบและได้รับการยกเว้นเก็บค่ายาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ คลินิกอื่นๆที่สนใจจะร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามได้ที่กองการประกอบโรคศิลปะ หมายเลขโทรศัพท์ 02-5901331 ในวันเวลาราชการ
View 11
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ