รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และประธานชมรม อสม.ทุกจังหวัด ให้อสม.ทุกหมู่บ้านจัดทำแผนชุมชนป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เพื่อกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ของประเทศในการป้องกันควบคุมโรคในระดับชนบท ออกเยี่ยมบ้านให้ความรู้ป้องกันการป่วยและลดการแพร่เชื้อ และค้นหาผู้ป่วยในหมู่บ้านชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ลดการเสียชีวิต เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศ 31 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป มั่นใจเยี่ยมบ้านได้วันละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน
วันนี้ (29 กรกฎาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมมอบนโยบายเร่งรัดบทบาท อสม. และแนวทางดำเนินการสร้างความพร้อมในการรับมือโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานสุขภาพภาคประชาชน ประธานชมรมอสม. ทุกจังหวัด ประมาณ 300 คน ว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ของไทย พบว่าจำนวนผู้ป่วยในระยะ 2-3 เดือนจากนี้ไป จะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยทีมีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นเช่นกัน
นายวิทยากล่าวต่อว่า ได้ขอความร่วมมือประธานอสม. ทุกจังหวัด ประสานการทำงานของอสม.ในเครือข่าย เพื่อดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ในหมู่บ้านชุมชน ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะระดมพลัง อสม.กว่า 987,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้อสม.ทุกคน มีความพร้อมและมุ่งมั่นช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ปฏิบัติงานเอาชนะปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่ โดยให้อสม.ทุกหมู่บ้านจัดทำแผนป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ที่เหมาะสมกับหมู่บ้าน/ชุมชนของตน ส่งให้กระทรวงสาธารณสุขรวบรวมเพื่อกำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ของประเทศในการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ในระดับชนบท
นอกจากนี้ ให้ออกเยี่ยมบ้านเพื่อให้คำแนะนำและแจกเอกสารความรู้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ แก่ประชาชน และค้นหาคนที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ทุกหมู่บ้านชุมชนในความรับผิดชอบของแต่ละคน ประมาณ 1015 หลังคาเรือน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคปอด หอบหืด หัวใจ เบาหวาน โรคไต ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ โรคอ้วน ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี หญิงมีครรภ์ ให้มาพบแพทย์ทันทีที่ป่วยเป็นไข้หวัด ส่วนประชาชนทั่วไปให้ติดตามอาการ หากป่วยเป็นไข้หวัด 2 วันแล้วยังไม่ดีขึ้นให้ส่งไปพบแพทย์ เพื่อได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที ลดการเสียชีวิต และติดตามอาการจนหายป่วย พร้อมทั้งรายงานข้อมูลคนป่วยให้สถานีอนามัยในพื้นที่ทุกวัน โดยจะดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป มั่นใจว่า จะสามารถเยี่ยมบ้านได้วันละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน
ในส่วนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ขอให้เอาจริงเอาจัง และเพิ่มความเข้มข้นในการติดตามสนับสนุนการทำงานของอสม.อย่างใกล้ชิด ทั้งด้านวิชาการ เอกสารเผยแพร่ความรู้ อุปกรณ์ปฏิบัติงานของอสม. เช่น ปรอทวัดไข้ ให้เพียงพอในการคัดกรองหาผู้ป่วย และประสานความร่วมมือกับทุกฝ่ายในจังหวัด ทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคม และสถานประกอบการต่าง ๆ ในการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานในส่วนกลาง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
*********************************** 29 กรกฎาคม 2552
View 14
29/07/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ