กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานศูนย์ปฏิบัติการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1ระดับจังหวัด ให้มีการประชุมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 3 ครั้ง ดำเนินการในพื้นที่ประสานกันเป็นเครือข่ายอย่างเข้มข้น เพื่อชะลอการระบาดของโรค
วันนี้ (22 กรกฎาคม 2552) ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมชี้แจงมาตรการเร่งด่วนในการคัดกรองผู้ป่วย การป้องกัน การดูแลและรักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุข แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ
นายวิทยา กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ เพื่อเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ เพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งจะต้องดำเนินการร่วมกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์โรคได้แพร่ระบาดไปยังภูมิภาค ประชาชนทุกคนมีความเสี่ยงติดเชื้อเท่ากัน มาตรการการจัดการโรคจึงต้องอาศัยความร่วมมือ จากทุกภาคส่วน ทั้งในเรื่องการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อชะลอการแพร่เชื้อ การป้องกันการแพร่เชื้อ การดูแลรักษาผู้ป่วยให้เป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ มั่นใจว่าหากดำเนินการอย่างเป็นเครือข่ายและสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน จะสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้
ประเด็นที่ได้เน้นย้ำในที่ประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมครั้งนี้ มีทั้งหมด 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.ได้ขอความร่วมมือให้แต่ละจังหวัดเปิดศูนย์ปฏิบัติการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และให้มีการประชุมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 3 ครั้ง พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของแต่ละจังหวัดให้คัดกรองเด็กนักเรียนป่วยและการคัดกรองผู้ป่วยทั่วไป ทั้งในโรงพยาบาล สถานประกอบการต่างๆ เช่น โรงงาน เพื่อแยกผู้ป่วยให้หยุดรักษาตัวที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อสู่คนอื่น ซึ่งในส่วนของผู้ปกครองเด็กนักเรียนและผู้ใช้แรงงาน หากป่วยหรือต้องดูแลลูกที่ป่วย สามารถหยุดงานได้โดยไม่ถือเป็นวันลาและไม่เสียสิทธิใดๆ 2.เร่งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆของแต่ละจังหวัด เช่น หอกระจายข่าว วิทยุหลัก วิทยุชุมชน เป็นต้น ให้ประชาชนทราบถึงอาการ การดูแลตนเองขณะเจ็บป่วย ตลอดจนรณรงค์ให้ผู้ป่วยใส่หน้ากากอนามัยอยู่บ้านจนครบ 7 วัน นับตั้งแต่วันแรกที่มีไข้
3.ในส่วนของจังหวัดที่มีการระบาดของโรคค่อนข้างมากควรเลื่อนการจัดงานมหรสพ หรือกิจกรรมที่มีคนมารวมกันเป็นจำนวนมากหากเลื่อนไม่ได้ควรมีมาตรการป้องกันการติดต่อของโรค 4.ใช้มาตรการทางกฎหมายผ่านข้อบัญญัติแต่ละท้องถิ่นในการดูแลความสะอาดสถานที่ต่างๆ เช่น ตลาด โรงเรียน โรงฆ่าสัตว์ ศูนย์การค้า สถานบันเทิง ร้านเกมส์ และ 5.ให้แต่ละจังหวัดประเมินผลการระบาดของโรค โดยวัดจากอัตราป่วยและผู้เสียชีวิตเทียบกับจำนวนประชากรแต่ละจังหวัดเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะส่งรายงานให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกสัปดาห์
****************************22 กรกฎาคม 2552
View 17
22/07/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ