รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ให้ประชาชนไทยใช้หน้ากากผ้า ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ หนุนแม่บ้านโอท็อบทุกจังหวัดผลิตหน้ากากอนามัยมาตรฐานคุณภาพดีขาย พร้อมประสานร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่มีกว่า 5,000 สาขาทั่วประเทศ ช่วยกระจายสินค้าซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งให้โรงพยาบาลทุกแห่งเปิดสายด่วนไข้หวัดใหญ่ ให้คำปรึกษาประชาชนที่ป่วยและอาการไม่รุนแรง ซึ่งมีจำนวนร้อยละ 95 ของผู้ป่วย ในการดูแลตนเองที่บ้านหรืออาการที่ต้องพบแพทย์รักษาทันที
เช้าวันนี้ (20 กรกฎาคม 2552) นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ เดินทางไปแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ เอกสารแผ่นพับคำแนะนำในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ที่ตลาดปากท่อ อ.ปากท่อ และที่วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยและล้างมือเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่
นายมานิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดในโลกที่ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้สำเร็จ การแพร่กระจายของเชื้อโรคกระจายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งแนวโน้มของประเทศไทยก็เช่นกัน ซึ่งในที่สุดจะมีผู้ป่วยทุกจังหวัด มาตรการรับมือที่สำคัญขณะนี้คือ การดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย ต้องได้มาตรฐาน รวดเร็วและเพียงพอ และการลดการแพร่กระจายเชื้อ โดยใช้เครื่องมือที่ไม่ใช่ยาป้องกัน ได้แก่ หน้ากากอนามัยและการล้างมือ กำจัดเชื้อที่ติดมากับมือหลังจากสัมผัสสิ่งของต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเข้าสู่ร่างกาย ทำได้ 2 วิธีคือ การล้างสบู่ และล้างด้วยเจลแอลกอฮอล์
นายมานิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้หน้ากากอนามัยชนิดกระดาษที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง อาจมีปัญหาไม่เพียงพอ เพราะความต้องการมีมาก กระทรวงสาธารณสุขได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประสานแม่บ้านโอท็อป จัดทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ออกจำหน่ายในแต่ละจังหวัด เพราะใช้แล้วซักทำความสะอาดได้ และใช้ได้หลายครั้งจนกว่าจะชำรุด ขณะนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากจากผู้บริหารร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ซึ่งมีกว่า 5,000 สาขาทั่วประเทศ ยินดีรับและเป็นจุดวางจำหน่ายหน้ากากอนามัยจากโอท็อป ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถซื้อหาได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายมานิต กล่าวต่อไปว่า สำหรับการดูแลผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ที่อาการไม่รุนแรง เมื่อป่วยแล้วสามารถพักรักษาอาการอยู่ที่บ้านได้ ซึ่งอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายเองได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มใหญ่มีจำนวนประมาณร้อยละ 95 ของผู้ป่วย หากได้รับคำแนะนำการดูแลอย่างดีแล้ว มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาอาการแทรกซ้อนใดๆ เกิดขึ้น หรือหากมีก็จะได้รับคำแนะนำให้ไปพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงที มีนโยบายให้โรงพยาบาลทุกแห่งเปิดสายด่วนไข้หวัดใหญ่ ให้คำปรึกษาประชาชนที่สงสัยว่าตนเองป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เพื่อแนะนำอาการที่ต้องไปพบแพทย์ทันที หรือดูแลตนเองที่บ้าน รวมทั้งโทรศัพท์ติดตามอาการผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ที่ได้รับการตรวจหรือจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลแล้ว รวมทั้งการกินยาต้านไวรัสให้ครบตามแพทย์สั่ง โดยให้ติดตามอาการทุกวันเพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติม จนกว่าอาการของผู้ป่วยจะดีขึ้น ซึ่งจะป้องกันอาการแทรกซ้อนรุนแรง และป้องกันการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้อีกทางหนึ่ง
****************************** 20 กรกฎาคม 2552
View 11
20/07/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ