กระทรวงสาธารณสุข ประกาศขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในวันนี้เพิ่มอีก 30 ราย รวมเป็นทั้งหมด 46 ราย ระบุจำนวนผู้ป่วยอาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีการติดเชื้อในหลายพื้นที่ ประชาชนอย่าตระหนก ขอให้ช่วยกันป้องกันตนเองไม่ให้ป่วย ซึ่งจะช่วยลดการระบาดได้ และหากไม่สบาย มีไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูกหรือไอมีเสมหะ ให้พักอยู่ในบ้านเพราะโรคนี้หายเองได้ และสวมหน้ากากอนามัย หากไม่ดีขึ้นให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล วันนี้ (11 มิถุนายน 2552) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ว่า ในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศขึ้นทะเบียนพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มอีก 30 ราย แยกเป็นผู้ป่วยในระบบเฝ้าระวัง 5 ราย และผู้ป่วยในระบบค้นหาสอบสวนโรคที่พัทยา 21 ราย และผู้ป่วยที่สอบสวนโรคในโรงเรียนเอกชนในกทม. 4 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันเพิ่มจากวานนี้ 16 ราย เป็นทั้งหมด 46 ราย ในกลุ่มผู้ป่วยเฝ้าระวัง 5 ราย รายละเอียดดังนี้ รายที่ 1 เป็นชายชาวอังกฤษอายุ 20 ปี เดินทางผ่านมาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจะไปต่อที่ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2552 พบมีไข้สูง จึงส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยรายนี้มีอาการไอ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2552 รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 23 ปี เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศสิงคโปร์ มีอาการป่วยมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ขณะนี้รักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นหญิงอายุ 27 ปี เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ป่วยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2552 รายที่ 4 มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง แต่ไปรับลูกชายที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2552 เริ่มป่วยมีไข้ ไอ เจ็บคอ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2552 และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ผู้ป่วยรายที่ 5 เป็นแม่ของผู้ป่วยรายที่ 16 ไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง แต่เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วย และอยู่ในข่ายเฝ้าระวังติดตามอาการ โดยรายนี้ไม่มีอาการป่วย แต่ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ นายวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีมีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หลังเดินทางกลับจากประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ลงสอบสวนโรคและผู้สัมผัส ในกลุ่มพนักงานสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่พัทยา พบมีผู้ป่วยติดเชื้ออีก 17 ราย และจากการตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่มารับบริการที่โรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี พบผู้ป่วยติดเชื้ออีก 4 ราย ได้ให้คำแนะนำให้พักอยู่บ้าน ลดการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆ และใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ นอกจากนี้ ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วยังได้สอบสวนโรคในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในกทม. หลังพบเด็กนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ผลการตรวจยืนยันพบมีเด็กนักเรียนติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า จากการประเมินสถานการณ์วันนี้ (11 มิถุนายน 2552) เริ่มมีการแพร่เชื้อในประเทศในหลายพื้นที่ คาดว่าจะมีผู้ป่วยจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ประชาชนไม่ต้องตกใจ เพราะข้อมูลทั้งในและต่างประเทศชี้ว่า โรคนี้ไม่รุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 90 มีอาการน้อยและหายเองได้ แต่ทุกคนต้องช่วยกันป้องกันโรค เพื่อจำกัดการระบาดอยู่ในวงเล็กที่สุด ลดผลกระทบด้านต่างๆ ของประเทศ โดยจะเน้น 3 ด้าน ประการแรกได้แก่ การเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจและไม่ตระหนก แต่สามารถป้องกันตัวเองและผู้ใกล้ชิดได้ หากไม่สบาย มีไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูกหรือไอมีเสมหะ ให้พักอยู่ในบ้าน เพราะโรคนี้หายเองได้และสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่คนอื่น เช่นเดียวกับการป้องกันโรคหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ทั่วๆ ไป แต่หากอาการไม่ดีขึ้นให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ประการที่ 2 ให้โรงพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศ รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยส่วนน้อย ที่อาจมีอาการรุนแรง ประการที่ 3 กระทรวงสาธารณสุขจะประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดมีการเตรียมความพร้อมการป้องกันควบคุมโรคและการดูแลผู้ป่วยที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว ให้จัดซ้อมแผนรับมืออย่างต่อเนื่อง สำหรับในกรณีที่พบเด็กนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในช่วงที่เปิดเรียนแล้ว ซึ่งขณะนี้เริ่มพบในกทม. อย่างไรก็ตาม โรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศควรให้การเอาใจใสป้องกันไว้ด้วย ซึ่งแนะนำให้โรงเรียนดูแลสำรวจนักเรียนเป็นประจำว่ามีนักเรียนป่วยหรือไม่ หากมีให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่เพื่อสอบสวนหาสาเหตุการติดเชื้อ หากการสอบสวนพบว่ามีการแพร่เชื้อในโรงเรียน อาจพิจารณาให้ปิดเรียนชั่วคราว โดยเป็นการพิจารณาร่วมกันระหว่างฝ่ายโรงเรียนกับฝ่ายสาธารณสุขในพื้นที่ ทั้งนี้ โรงเรียนต่างๆ สามารถดูคำแนะนำการป้องกันได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข ทาง www.moph.go.th ************************************** 11 มิถุนายน 2552


   
   


View 15    11/06/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ