กระทรวงสาธารณสุข เตรียมปรับมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ขยายจากการสกัดกั้นไม่ให้โรคเข้าประเทศ ให้มีความพร้อมครอบคลุมถึงการควบคุมจำกัดขอบเขตหากมีการระบาด รวมทั้งการบรรเทาความรุนแรงและลดผลกระทบจากการระบาด โดยไทยยังไม่มีปัญหาการแพร่เชื้อในพื้นที่ มีผู้ป่วยยืนยันที่ติดเชื้อจากต่างประเทศเท่าเดิม 2 ราย
บ่ายวันนี้ (26 พฤษภาคม 2552) พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมระบบการตรวจคัดแยกแบบบันทึกสุขภาพ ผู้โดยสารที่มาจากต่างประเทศตามแบบ ต.8 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ และเยี่ยมชมการติดตั้งซอฟแวร์ช่วยวัดอุณหภูมิร่วมกับอินฟราเรด เครื่องเทอมสกรีน ThermScreen ของศูนย์เทคโนโลยีอิเลคทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำหรับตรวจวัดอุณหภูมิแบบไม่สัมผัสเพื่อตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการป่วย ทราบผลภายใน 0.03 วินาที จะทำให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจเพิ่มเติมและให้ความรู้ความเข้าใจ
นายวิทยา กล่าวว่า ขอขอบคุณกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่สนับสนุนเครื่องเทอมสกรีนช่วยวัดอุณหภูมิ ซึ่งจะใช้สลับกับเครื่องเทอร์โมสแกนของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ต่อเนื่อง ลดปัญหาเครื่องชำรุด ผลการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องวัดไข้เทอร์โมสแกนทุกเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ ตั้งแต่ 24 เมษายน 25 พฤษภาคม 2552 มียอดสะสม 938,998 ราย เฉลี่ยวันละ 30,372 ราย ตลอดวานนี้ มีผู้ผ่านการคัดกรองอาการไข้ทั้งหมด 27,815 ราย พบมีไข้ 9 ราย แต่ไม่มีผู้โดยสารที่มีไข้ได้รับการส่งต่อเพื่อรับการดูแลที่โรงพยาบาล
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศไทยถือว่าอยู่ในขั้นตอนการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อย่างเต็มที่ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามวิเคราะห์สถานการณ์ และมีการปรับมาตรการอย่างต่อเนื่อง ให้เหมาะสมกับลักษณะการแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งไทยคงมีผู้ติดเชื้อที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศแค่ 2 รายเท่าเดิมไม่มีการแพร่กระจายในพื้นที่ และโรคนี้มีอัตราความรุนแรงน้อยกว่าโรคปอดบวม โรคไข้หวัดนก อัตราการเสียชีวิตต่ำมากไม่ถึงร้อยละ 1 จึงได้ปรับทิศทาง ขยายการทำงานจากสกัดกั้นโรคไม่ให้เข้าประเทศ โดยเสริมความพร้อมและความเข้มแข็งของการป้องกันโรค ควบคุมจำกัดขอบเขตการระบาด รวมทั้งความพร้อมในการบรรเทาความรุนแรงและผลกระทบจากการระบาด ทั้งนี้ จะประสานงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความร่วมมือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ตำรวจ ภาคเอกชนและชุมชนให้มีความเข้มแข็ง และจะประสานกระทรวงศึกษาธิการ หารือรายละเอียดในการควบคุมโรคในโรงเรียน เพื่อเสนอคณะกรรมการแห่งชาติต่อไป
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สิ่งสำคัญประชาชนต้องรู้จักดูแลป้องกันตัวเองและใส่ใจห่วงใยคนรอบข้าง หากเป็นหวัดควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่กับผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาทุกวัน ทั้งช่องทางปกติและช่องทางพิเศษ จะให้ความรู้วิธีติดต่อของโรค หากเป็นไข้หรือมีอาการคล้ายไข้หวัดให้รีบไปตรวจรักษาให้หายขาด และป้องกันการแพร่ระบาดไปยังสมาชิกในครอบครัวหรือที่ทำงาน
****************** 26 พฤษภาคม 2552
View 17
26/05/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ