รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านควบคุมโรค ชี้แจงสถานการณ์และสรุปการดำเนินงานของไทย สร้างความมั่นใจแก่ผู้แทนสถานทูตประจำประเทศไทย พร้อมเชิญผู้แทนสายการบินไทยและการท่าอากาศยานร่วมปรับปรุงแนวทางปฏิบัติบนเครื่องบินและสนามบิน และวางมาตรการเฝ้าระวังควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1เอ็น1 ในการแข่งกีฬายุวชนชิงชนะเลิศแห่งโลกที่จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ (13 พฤษภาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการเฝ้าระวังและคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น 1 การค้นหาผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังในหมู่บ้านโดยทีมสอบสวนเฝ้าระวังเคลื่อนที่เร็ว และเครือข่ายอสม.ทุกหมู่บ้าน และมาตรการการรักษา นายวิทยากล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จะจัดการชี้แจงสถานการณ์ สรุปแนวทางการควบคุมป้องกันโรคของประเทศไทย และความคืบหน้าในการดำเนินงานแก่ผู้แทนสถานทูตประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทย โดยผู้ทรงคุณวุฒิของทั้ง 2 กระทรวง เพื่อให้ความมั่นใจในมาตรการดำเนินงานของไทย และในวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2552 จะเชิญผู้แทนสายการบินไทยและการท่าอากาศยานมาหารือ ปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อการป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางระหว่างประเทศ ทั้งที่ต้องดำเนินการบนเครื่องบินและที่สนามบิน ก่อนจัดประชุมชี้แจงแก่ผู้แทนจากสายการบินต่างๆ เพื่อปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกันในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งได้สั่งการให้อธิบดีกรมควบคุมโรค ไปวางมาตรการการเฝ้าระวังและควบคุมโรคในการแข่งขันกีฬายุวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ที่จะจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะเริ่มแข่งขันในวันที่ 19-24 พฤษภาคม 2552 นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะออกคำแนะนำประชาชนเพิ่มเติมเป็นระยะ และจะจัดทำคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มต่างๆ ได้แก่ ผู้ทำงานในสำนักงาน ผู้ประกอบการในสถานบันเทิง ผู้ประกอบการในโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ให้บริการขนส่ง พาหนะสาธารณะ เช่น รถเมล์ แท็กซี่ เรือด่วน รถไฟ รถไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ ได้จัดทำคำแนะนำประชาชน แนวทางการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เผยแพร่ผ่านทางเว็ปไซต์กระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.th และสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ http://beid.ddc.moph.go.th นายวิทยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับการใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ โอเซลทาร์มิเวียร์ ให้ผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงที่มีอาการไข้ได้รับการรักษาด้วยยาดังกล่าว โดยไม่ต้องรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการว่ามีเชื้อไข้หวัดใหญ่เป็นบวกตามแนวทางการรักษาที่ได้จัดทำไว้เดิม ซึ่งอาจจะยังไม่จำเป็นและอาจมีผลให้เกิดการดื้อยา และหากเกิดการระบาดใหญ่อาจทำให้ขาดแคลนยาได้ ได้มอบให้กรมการแพทย์ทบทวนแนวทางการรักษาเพื่อกำหนดเป็นแนวทางเดียวกันของสถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ รวมทั้งให้วางแผนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ปฏิบัติได้จริง เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดการระบาดมีผู้ป่วยจำนวนมาก โดยในบ่ายวันนี้ ทีมวิชาการด้านการแพทย์ จะหารือแนวทางการสำรองยาโอเซลทาร์มิเวียร์ และการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 เพื่อเสนอต่อ ครม.ในสัปดาห์หน้า ******************************** 13 พฤษภาคม 2552


   
   


View 17    13/05/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ