กระทรวงสาธารณสุขไทย ยังไม่ห้ามคนไทยเดินทางเข้า 16 พื้นที่ที่มีรายงานการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่แนะนำให้เลื่อนการเดินทางหากไม่จำเป็น ยันมาตรการสกัดกั้นเชื้อของไทยแข็งแกร่งเต็มที่ เฝ้าระวังทุกด่านเข้าประเทศ ทั้งทางบก อากาศ และน้ำ มีระบบตรวจคัดกรองผู้ป่วยในโรงพยาบาลและหมู่บ้าน ส่วนการรองรับคนไทยที่กลับจากเม็กซิโก 14 คน ได้วางระบบดูแลตามหลักวิชาการแล้ว ล่าสุดไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
วันนี้ (3 พฤษภาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย แพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และทีมนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไข้หวัดใหญ่ ประชุมศูนย์ปฏิบัติการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างใกล้ชิด
นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่เข้าสู่ประเทศไทยอย่างเต็มที่ หลังมีรายงานเชื้อแพร่ระบาดใน 16 พื้นที่ ซึ่งมีประเทศในเอเชียด้วย ได้จัดทำแนวทางการตรวจคัดกรองสำหรับเจ้าหน้าที่ประจำด่านควบคุมโรค เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทุกด่าน ทั้งทางบก 60 ด่าน ทางน้ำ 15 ด่าน และทางอากาศ 15 ด่าน และระดมแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคประจำการวันละกว่า 30 คน หมุนเวียนประจำที่สนามบินสุวรรณภูมิตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจคัดกรองผู้ที่ผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิและมีไข้อีกชั้นหนึ่ง โดยได้จัดรถพยาบาลฉุกเฉินจำนวน 3 คัน เพื่อรับตัวผู้ที่มีไข้ไปรับการรักษาและสังเกตอาการในห้องแยกปลอดเชื้อที่สถาบันบำราศนราดูร
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีระบบเฝ้าระวังผู้ป่วย ทั้งไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยโรงพยาบาลทุกแห่งมีระบบคัดกรองผู้ป่วยที่มีการไข้หวัด ปอดบวม ส่วนระดับหมู่บ้าน มีอสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เฝ้าระวังการป่วยทุกวัน จึงมั่นใจว่าระบบที่เรากำลังทำอยู่ขณะนี้ จะสามารถสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อได้ทันท่วงที โดยในวันนี้ ได้แต่งตั้งนายแพทย์ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาของประเทศไทย เป็นประธานคณะที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุขด้วย
สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก องค์การอนามัยโลกรายงานตั้งแต่ 24 เมษายน ถึงเช้าวันที่ 3 พฤษภาคม 2552 (ตามเวลาประเทศไทย) มีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งหมด 16 ประเทศ รวม 658 ราย เสียชีวิต 17 ราย ประกอบด้วย เม็กซิโกป่วย 397 ราย เสียชีวิต 16 ราย อเมริกาป่วย 160 รายใน 22 รัฐ เสียชีวิต 1 ราย ที่เหลืออีก 14 ประเทศ ไม่มีรายงานเสียชีวิต ได้แก่ แคนาดา 51 ราย คอสตาริกา 1 ราย ฝรั่งเศส 2 ราย เกาหลี 1 ราย สหราชอาณาจักร 15 ราย เยอรมนี 6 ราย อิสราเอล 3 ราย นิวซีแลนด์ 4 ราย สเปน 13 ราย ออสเตรีย 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย สวิสเซอร์แลนด์ 1 ราย จีน (ฮ่องกง) 1 ราย และเดนมาร์ก 1 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน-2 พฤษภาคม 2552 สำนักระบาดวิทยาได้รับรายงานผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่สะสม 10 ราย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป 9 ราย อยู่ระหว่างการตรวจผลทางห้องปฏิบัติการอีก 1 รายเป็นเด็กชายวัย 11 เดือน อยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ มาจากประเทศนิวซีแลนด์ ถึงไทยเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 ขณะนี้อยู่ในความดูแลของทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วของพื้นที่แล้ว คาดว่าจะทราบผลการตรวจในเย็นวันนี้ สำหรับผู้ที่มีไข้ 1 ราย เป็นหญิงที่ส่งเข้าสังเกตอาการที่สถาบันบำราศนราดูร ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ผลการตรวจยืนยันพบเป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป วันนี้อาการดีขึ้น แพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว ทั้งนี้ ผลการเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้าประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิวานนี้ (2 พฤษภาคม 2552) ผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิทั้ง 6 จุด จำนวน 34,735 คน พบอุณหภูมิสูง 7 คน วัดซ้ำไม่มีไข้ ได้ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพตนเองเป็นระยะ 7 วัน ผลการตรวจสะสมรอบ 6 วันที่ผ่านมา มีการตรวจวัดอุณหภูมิทั้งหมด 216,448 ราย ยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
นายวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการรับมือหลังมีเชื้อระบาดเข้าสู่ทวีปเอเชีย กระทรวงสาธารณสุขไทยจะยึดตามประกาศขององค์การอนามัยโลก โดยยังจะไม่ห้ามคนไทยเดินทางไป 16 พื้นที่ที่มีรายงานยืนยันพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าวชั่วคราว หากจำเป็นต้องเดินทาง ขอให้ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขของไทย และประเทศที่จะเดินทางไปด้วยอย่างเคร่งครัด ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยสังเกตอาการป่วยของตนเองภายใน 7 หากมีไข้ ไอ ขอให้คาดหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และรีบไปพบแพทย์ พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางไปต่างประเทศให้แพทย์ทราบด้วย
สำหรับคณะครูและนักเรียน จำนวน 14 คน ที่จะเดินทางกลับจากประเทศเม็กซิโกในคืนนี้ จะมีทีมแพทย์พยาบาลไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อคัดกรองอาการอย่างละเอียด พร้อมทั้งให้ความรู้การเฝ้าระวังอาการตนเอง ในรายที่พบว่ามีไข้หรือมีอาการผิดปกติ แพทย์จะส่งไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดและให้การรักษา โดยเชื้อนี้มีระยะฟักตัว 2-3 วัน จะแนะนำให้หยุดพักผ่อนที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ติดตามอาการทุกวัน
นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอให้ประชาชนไทยอย่าตื่นตระหนกกับข่าวการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จนเกินไป เนื่องจากขณะนี้มีรายงานว่ามีประชาชนจำนวนมากที่จะเดินทางไปต่างประเทศ หาซื้อยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่เพื่อกินป้องกันเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยา และไม่มียาที่จะรักษาได้อีก การใช้ยาจึงต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งยานี้จะไม่มีจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป
ด้านนายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการที่องค์การอนามัยโลกมีความวิตกว่า กลุ่มผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย ในส่วนของผู้ติดเชื้อเอชไอวีของไทย ขอให้เคร่งครัดในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และกินยาต้านไวรัสตามที่แพทย์สั่งให้ครบ หากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทำการรักษาทันที
************************ 3 พฤษภาคม 2552
View 16
03/05/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ