กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรมและเครื่องบิน ขอความร่วมมือการเฝ้าระวังอาการป่วยในผู้เดินทางมาจากประเทศเม็กซิโกหรือประเทศที่มีการระบาด เพื่อสามารถค้นพบผู้ป่วยไวที่สุดและได้รับการดูแลรักษา ควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่กระจายเร็วที่สุดจากกระทรวงสาธารณสุข
วันนี้ (30 เมษายน 2552 ) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย การบินไทย การท่าอากาศยาน ธุรกิจการบินแลสายการบินต่างๆ สหพันธ์ท่องเที่ยว สมาคมผู้ประกอบการขนส่ง สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม บริษัทท่องเที่ยว สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว ไทย -จีน สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย- ญี่ปุ่น ประมาณ 50 คน เพื่อหารือมาตรการและขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ที่มาพร้อมกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย
นายวิทยา กล่าวว่า ในวันนี้องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศเพิ่มความรุนแรงการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก จากระดับ 4 เป็น 5 แต่โรคนี้ยังไม่มีการแพร่ในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องขอความร่วมมือภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและเกี่ยวข้อง ร่วมเป็นเครือข่ายในการป้องกันเฝ้าระวังเพื่อให้ค้นพบผู้ป่วยให้เร็วที่สุด และรักษาเร็วที่สุด ขอความร่วมมือทัวร์ ให้ส่งรายชื่อ และที่อยู่นักท่องเที่ยวที่เดินทางหรือผ่านประเทศที่มีการระบาดในช่วงแรกๆ ได้แก่เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา แคนาดา ภายใน 14 วัน และสามารถติดต่อได้ ซึ่งจะทำให้สามารถเฝ้าระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดแพร่ระบาดในประเทศไทยได้ทันที จากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกล่าสุดนี้ มีรายงานพบผู้ป่วยใน 10 ประเทศแล้ว ในเอเชียมีที่เกาหลี แต่ต้องรอผลการตรวจยืนยัน
คนเดินทางมาจากแหล่งแพร่ระบาดไม่ใช่ผู้ร้ายหรือบุคคลที่น่ารังเกียจ แต่เป็นบุคคลที่กระทรวงสาธารณสุขต้องให้การคุ้มครองสุขภาพ ให้ลูกทัวร์มั่นใจว่าจะได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ต้องการให้เกิดการตื่นตระหนก ซึ่งระบบของประเทศไทยได้เตรียมการไว้พร้อมทุกด้าน วันนี้จะให้องค์การเภสัชกรรมผลิตยาเพิ่มอีก 1 ล้านเม็ด เพื่อรองรับคนที่มีอาการป่วยให้ได้ 1 แสนคน นายวิทยากล่าว
นายวิทยากล่าวต่อว่า สำหรับนักเรียนไทยที่อยู่ในเม็กซิโก ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมมาตรการรองรับโดยจะส่งแพทย์ไปรับตัวที่สนามบิน และตรวจร่างกายอย่างละเอียด และมีระบบเฝ้าระวังทุกวัน เป็นเวลา 14 วัน ในการปรับความเข้มข้นการติดตามอาการป่วย นั้นจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความรุนแรงการแพร่ระบาด เพื่อไม่สร้างการตื่นตระหนกให้ประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุขไทยจะนำเสนอมาตรการต่างๆที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินงานเข้าสู่ที่ประชุมระดับอาเซียนและที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลกที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในกลางเดือนพฤษภาคม 2552 นี้
ทางด้านนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ขั้นตอนการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขจะเน้นที่ความโปร่งใสที่สุดและมีผลดีต่อผู้ประกอบการ ลูกทัวร์ได้รับการดูแลที่ดี เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น ได้มอบหมายให้นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ประสานหลักกับผู้ประกอบการด้านธุรกิจท่องเที่ยว โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแบบรายงานนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศเม็กซิโกหรือพื้นที่เสี่ยง แจกให้บริษัททัวร์ต่างๆ ผู้ประกอบการโรงแรม ให้จัดส่งรายงาน ลูกทัวร์ ผู้เข้าพักที่เดินทางมาจากประเทศเม็กซิโกหรือพื้นที่เสี่ยง และมีอาการป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่ ได้แก่มีไข้สูง ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว โดยให้ส่งรายงานที่กรมควบคุมโรค หมายเลข 02 -965- 9484 ทุกวัน
ส่วนสายการบินต่างๆ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกคำแนะนำในการประกาศเตือนบนเครื่องบินและแจกคำแนะนำสุขภาพ โดยให้เจ้าหน้าที่บนเครื่องประกาศแจ้งผู้โดยสารบนเครื่องบินทราบ และแจกแบบฟอร์มให้ผู้โดยสารที่มาจากประเทศเสี่ยงกรอกรายละเอียดให้อย่างครบถ้วน และส่งให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคที่สนามบินนานาชาติทุกแห่งที่จุดวัดอุณหภูมิ เพื่อสามารถติดตามดูแลผู้ป่วย ควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ผลการประชุมวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการดีมาก โดยมีข้อตกลงว่า ผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกเที่ยวบิน จะแจกเอกสาร ต.8 ซึ่งเป็นแบบสอบถามสุขภาพผู้เดินทางมาจากแหล่งระบาดของโรคตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 100,000 ฉบับ และให้ส่งที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ส่วนผู้โดยสารที่เข้ามาแล้ว 14 วันจาก 3 ประเทศคือเม็กซิโก แคนาดา และบางรัฐของสหรัฐอเมริกา ให้บริษัททัวร์ติดตามตรวจสอบว่ายังมีหลงเหลือในประเทศหรือไม่ เพื่อติดตามอาการได้ ทั้งนี้หากผู้โดยสาร ลูกทัวร์ มีไข้ ขอให้ส่งตัวไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อให้การรักษาอย่างทันท่วงที หรือให้ประสานปรึกษาได้ที่ 1669
******************************************** 30 เมษายน 2552
View 11
30/04/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ