สธ. ร่วมมือเครือข่ายต้านบุหรี่ในภูมิภาคอาเซียน วางแนวทางสกัดกั้นการแทรกแซงนโยบายควบคุมบุหรี่

กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ เอกชน เครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบทั้งในและนอกประเทศ วางแนวทางสกัดกั้นบริษัทบุหรี่แทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบของภาครัฐ ตามข้อตกลงมาตรา 5.3 ของที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาแม่บทภายใต้กรอบองค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับการควบคุมยาสูบ ครั้งที่ 3 วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2552) ที่สวนสามพราน จังหวัดนครปฐม นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกต ผู้อำนวยการสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก ผู้แทนจากประเทศกลุ่มอาเซียน องค์กรเอกชนที่ทำหน้าที่ในการผลักดันนโยบายการควบคุมการบริโภคยาสูบ (SEATCA) และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์และแผนดำเนินการตามมาตรา 5.3 ของกรอบอนุสัญญาในการควบคุมยาสูบ ว่าด้วยการปกป้องนโยบายควบคุมการบริโภคยาสูบจากอุตสาหกรรมยาสูบ ว่า หลังการประชุมใหญ่ประเทศภาคีภายใต้กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ ครั้งที่ 3 ณ เมืองเดอร์บัน ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 17–22 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา ประเทศไทยและประเทศภาคีได้มีการรับรองแนวทางในการดำเนินการตามมาตราต่างๆ ได้แก่ มาตรา 5.3 การปกป้องนโยบายควบคุมการบริโภคยาสูบจากอุตสาหกรรมยาสูบ มาตรา 11 เกี่ยวกับคำเตือนบนซองบุหรี่ และ มาตรา 13 เกี่ยวกับการห้ามโฆษณาและส่งเสริมการขายสินค้ายาสูบ ซึ่งแต่ละประเทศต้องกลับไปจัดทำคู่มือหรือแนวทางในการปฏิบัติตามมาตราต่างๆ ที่ผ่านการรับรองจากที่ประชุมใหญ่ต่อไป สำหรับการประชุมครั้งนี้ จะมีการหารือ อภิปรายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามมาตรา 5.3 โดยมุ่งเน้นประเด็นสำคัญ ได้แก่ ไม่ให้หน่วยงานของรัฐยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมใดๆ ของบริษัทบุหรี่ หรือมีการรับบริจาคจากบริษัทบุหรี่ ห้ามประชาสัมพันธ์ โฆษณาโครงการช่วยเหลือ บริจาคให้แก่สังคมโดยบริษัทบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งแนวทางปฏิบัติเหล่านี้ จะได้นำไปใช้ในการควบคุมการบริโภคยาสูบในประเทศของตน โดยในส่วนของประเทศไทย ตั้งเป้าหมายว่าจะได้คู่มือหรือแนวปฏิบัติในการป้องกันการแทรกแซงนโยบายสาธารณะ ด้านการควบคุมยาสูบจากธุรกิจยาสูบและองค์กรผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการปกป้อง ประชาชน เยาวชน ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบ และในทางกลับกันไม่ให้ธุรกิจยาสูบแอบแฝงเข้าร่วมสนับสนุนในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เพื่อมุ่งไปสู่การลดการบริโภคยาสูบในระยะยาวต่อไป .................................. 27 กุมภาพันธ์ 2552