วันนี้ (10 มิถุนายน 2567) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ กับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิชิต สุขทร รองอธิการบดี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชวัลรัตน์ ศรีนวลปาน คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช นางสาวจิราภรณ์ เพชรรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 สุราษฎร์ธานี เป็นพยาน  และมีคณะผู้บริหาร จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 สุราษฎร์ธานี คณะครูอาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ร่วมงาน สำหรับวัตถุประสงค์การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างกัน โดยเน้นการดำเนินงานทางวิชาการการเรียนการสอนของนักศึกษา และการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับงานวิจัยด้านงานรังสีและเครื่องมือแพทย์
 

 นายแพทย์ยงยศ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นหน่วยงานตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สุขภาพอาหาร ยา ยาเสพติด เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ รังสี และวัตถุอันตรายทางสาธารณสุข ชีววัตถุ สมุนไพร และการชันสูตรโรค เพื่อควบคุมคุณภาพ ประสิทธิภาพและมาตรฐาน รวมทั้งศึกษา วิจัย พัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ และยังเป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิง เป็นห้องปฏิบัติการสอบเทียบเครื่องมือทางการแพทย์และสาธารณสุข รับรองคุณภาพทางห้องปฏิบัติการทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน  มีศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์กระจายอยู่ทุกภูมิภาค โดยปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการสนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่

สำหรับ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 สุราษฎร์ธานี มีเขตรับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช มีห้องปฏิบัติการที่ดำเนินงานตามมาตรฐานสากล และมีเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อสนับสนุนการตรวจวิเคราะห์วิจัยในพื้นที่ โดยมีผลงานเด่นทั้งด้านการตรวจเฝ้าระวัง ความปลอดภัยอาหาร การเฝ้าระวังโรค ตรวจคัดกรองทารกแรกเกิด แบบเพิ่มจำนวนโรค รวมถึงการตรวจคุณภาพเครื่องมือแพทย์ เครื่องกำเนิดรังสี ปริมาณรังสีแก่หน่วยงานในพื้นที่ และเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

 


“ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ในครั้งนี้จะเน้นการดำเนินงานทางวิชาการการเรียนการสอนของนักศึกษา และการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับงานวิจัยด้านงานรังสีและเครื่องมือแพทย์ เพื่อให้เกิดความร่วมมือ ในการจัดการเรียนการสอน โดยนักศึกษาได้เพิ่มทักษะวิชาชีพและสร้างเสริมประสบการณ์ด้านงานรังสีและเครื่องมือแพทย์ ได้เรียนรู้ถึงสภาพปัญหาและวิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นขณะปฏิบัติงานและพัฒนาทักษะความคิดและการใช้ หลักทฤษฎีองค์ความรู้ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต และสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสนับสนุนงานด้านป้องกันอันตรายจากรังสีในกิจกรรมด้านการแพทย์แก่เจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไป” นายแพทย์ยงยศ กล่าว



   
   


View 54    10/06/2567   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ