กระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนคนไทย อย่าละเรื่องการป้องกันโรคไข้หวัดนก ชี้ยังจำเป็นเนื่องจากอยู่ในฤดูกาลระบาดของเชื้อไข้หวัดนก สถานการณ์ต่างประเทศยังพบผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้ การป้องกันเบื้องต้นที่ได้ผลคือ ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ โดยเฉพาะหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงฤดูหนาวเป็นฤดูกาลที่มีความเสี่ยงเกิดโรคไข้หวัดนกระบาด เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น เอื้อให้เชื้อไวรัสมีชีวิตและเจริญเติบโตได้ดีในธรรมชาติ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานพบผู้ติดเชื้อโรคไข้หวัดนกที่ประเทศจีนและเวียดนาม ในส่วนของประเทศไทยยังคงมาตรการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกเข้มเหมือนเดิม ทั้งในสัตว์และในคนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่พบการติดเชื้อไข้หวัดนกในคนมากว่า 2 ปีแล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาท ขอให้ประชาชนทุกคนป้องกันตนเอง โดยล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ ภายหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ หรือใช้วิธีการล้างแห้งโดยใช้เจลล้างมือแทนก็ได้ วิธีนี้ยังสามารถป้องกันโรคไข้หวัดหรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ได้อีกด้วย มาตรการสำคัญที่ต้องเคร่งครัดต่อก็คือ อย่าเล่นคลุกคลีกับสัตว์ปีก เมื่อมีสัตว์ปีกป่วยหรือตายผิดปกติ ห้ามใช้มือเปล่าสัมผัสซากสัตว์อย่างเด็ดขาด ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อสม. ผู้ใหญ่บ้าน หรืออบต. เพื่อเก็บซากสัตว์ไปตรวจพิสูจน์ ส่วนสัตว์ปีกในฝูงที่เหลืออยู่และยังไม่ป่วย ก็อย่านำมาเชือดกิน เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อจากสัตว์ดังกล่าวขณะเชือดหรือชำแหละ และขณะนี้ใกล้เทศกาลตรุษจีน ประชาชนต้องใกล้ชิดกับสัตว์ปีกอย่างมาก โดยเฉพาะเป็ดไก่ ไม่ว่าจะเป็นการขนย้าย การเลี้ยง การเชือด ต้องระวังทุกขั้นตอน โดยกระทรวงสาธารณสุขจะรณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัดนกในเทศกาลตรุษจีนในช่วงก่อนตรุษจีน เพื่อให้ประชาชนสามารถปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากโรคไข้หวัดนก ทางด้านนายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในคน ในกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก โดยเฉพาะโรคปอดบวม ปอดอักเสบ และโรคไข้หวัดใหญ่ ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศ และอยู่ในพื้นที่ที่มีสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ ตั้งแต่วันที่ 1-7 มกราคม 2552 มีทั้งหมด 8 ราย ยังไม่พบรายใดติดเชื้อไข้หวัดนก สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดนกทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงวันที่ 7 มกราคม 2552 มีผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดนก 393 ราย เสียชีวิต 248 ราย ใน 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซอร์ไบจัน กัมพูชา จีน สาธารณรัฐจิบูตี อียิปต์ อินโดนีเซีย อิรัก ลาว พม่า ไนจีเรีย ปากีสถาน ไทย ตุรกี เวียดนาม และบังคลาเทศ โดยไทยไม่พบการติดเชื้อในคนติดต่อกันมาแล้ว 2 ปี รายสุดท้ายพบเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 ***************************** 9 มกราคม 2552


   
   


View 10    09/01/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ