กระทรวงสาธารณสุข เร่งจัดเตรียมความพร้อมการจ่ายค่าตอบแทนให้ อสม. 600 บาทต่อเดือน ให้ทุกจังหวัดเร่งสำรวจ ขึ้นทะเบียน อสม. และอบรมความรู้ เพิ่มศักยภาพการจัดทำแผนงานสร้างสุขภาพประชาชนในหมู่บ้าน คาดจะจ่ายค่าตอบแทนได้ในเดือนมีนาคม 2552 เป็นของขวัญเนื่องในวัน อสม. แห่งชาติ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการจ่ายค่าตอบแทนให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านทั่วประเทศ หรือ อสม. ตามนโยบายรัฐบาลในอัตราเดือนละ 600 บาท ว่า ค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการทำงานของอสม. ไม่ถือว่าเป็นค่าจ้าง ซึ่งตลอด 30 ปีที่ผ่านมา อสม. ได้เสียสละทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนอย่างใด ในการเตรียมการจ่ายค่าตอบแทนให้ อสม. นั้น จะเร่งให้ทันวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 20 มีนาคม 2552 เพื่อมอบเป็นของขวัญ ให้อสม.มีกำลังใจทำงานช่วยเหลือภาครัฐแก้ไขปัญหาสาธารณสุข โดยได้มอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดำเนินการเร่งด่วนใน 3 เรื่องดังนี้ ประการแรก ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการสำรวจ และคัดเลือก อสม. ที่มีความตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง มาขึ้นทะเบียน อสม. ให้ครอบคลุมเพียงพอในการดูแลประชาชนทุกหลังคาเรือน และกำหนดบทบาทให้ชัดเจน ประการที่ 2 พัฒนาศักยภาพของ อสม. ให้มีขีดความสามารถการทำงานสูงขึ้น โดยเฉพาะการรณรงค์สร้างสุขภาพ และประการที่ 3 ให้สถานีอนามัยทั่วประเทศ จัดประชุมชี้แจงแนวทางการทำงานตามนโยบายรัฐบาล และรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของ อสม. เพื่อนำข้อมูลมาจัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติ หรือประกาศกระทรวงที่เกี่ยวกับอาสาสมัครสาธารณสุข มีการกำหนดบทบาทและภารกิจในการดูแลสุขภาพประชาชนที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถจ่ายค่าตอบแทน อสม.ได้ โดยจะเร่งดำเนินการและเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด คาดว่าจะดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนได้ในปลายเดือนมีนาคม 2552 นายวิทยากล่าวต่อว่า นโยบายในการพัฒนาสุขภาพประชาชนของรัฐบาลชุดนี้ จะเน้นหนักการสร้างสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อสุขภาพ และการเจ็บป่วยเรื้องรัง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน โดยจะให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรืออสม. มีบทบาทสำคัญในการสร้างความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพของประชาชนตามหมู่บ้าน ชุมชนทั่วประเทศ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อกลับไปทำงานชดใช้ทุนในท้องถิ่น ทางด้านนายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ขณะนี้ ทั่วประเทศมี อสม. กว่า 830,000 คน อสม. 1 คนดูแลประชาชน 10-15 หลังคาเรือน ในการทำงานของอสม.นั้น จะให้ทำงานร่วมกับสถานีอนามัยซึ่งมีครบทุกตำบล โดยในรอบ 2 ปีมานี้กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาศักยภาพ อสม.ใน 2 เรื่อง ได้แก่ ด้านวิชาการ ได้เพิ่มความรู้เรื่องโรคไม่ติดต่อ เน้นหนักที่เป็นปัญหา 3 อันดับแรกของคนไทย ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งจะเน้นให้ อสม.รณรงค์ปรับพฤติกรรมการออกกำลังกาย การกินอาหาร ในปีนี้จะเร่งอบรมศักยภาพเพิ่มอีก 3 เรื่อง ได้แก่ การป้องกันการคลอดก่อนกำหนด การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชน และ2. ด้านการจัดทำแผนงาน/โครงการสร้างสุขภาพชุมชน เพื่อของบประมาณจากอบต. ซึ่งมั่นใจว่าตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2552 นี้ อสม.ทุกหมู่บ้านจะเริ่มทำงานตามโครงการที่จัดทำไว้และนโยบายของรัฐบาล ********************************** 8 มกราคม 2552


   
   


View 8    08/01/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ