กรมแพทย์แผนไทยฯแนะ ใช้ภูมิปัญญาไทย สู้ภัยโควิด 19 ย้ำ ผู้ป่วยใช้ยา “ฟ้าทะลายโจร” รักษาได้

          กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะประชาชน ดูแลสุขภาพป้องกันความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด 19 สามารถใช้ยาฟ้าทะลายโจร รักษาอาการได้ และควรเน้นไปที่การรับประทานพืช ผัก สมุนไพร รวมไปถึง การใช้ตำรับยาสมุนไพร รักษาตามอาการ ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับสู่สภาพปกติ
          นายแพทย์เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ยังคงมีอยู่ หากประชาชนติดเชื้อโควิด 19 แล้ว อาการไม่รุนแรง และรักษาตัวที่บ้าน การใช้ยาฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาอาการโควิด 19 นั้น ต้องรักษาให้เร็วที่สุด และผู้ป่วยโควิด 19 มีความจำเป็นจะต้องได้รับสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่เพียงพอ โดยแบ่งให้รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 60 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร ต่อเนื่อง 5 วัน จึงจะช่วยลดโอกาสการเกิดปอดบวมและความรุนแรงอื่นๆที่เกิดขึ้นในภายหลังได้ 
           สำหรับ ช่วงหลังติดเชื้อ เน้นบรรเทาอาการ Long COVID ที่จะเกิดขึ้น เช่น ไอ หายใจลำบาก อ่อนเพลีย การดูแลตัวเองสามารถใช้ยาเพื่อปรับสมดุล และฟื้นฟูร่างกาย อาทิ ยาหอมนวโกฐ สรรพคุณ แก้อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร วิงเวียน คลื่นไส้ ยาตรีผลา ยาแก้ไอผสมมะขามป้อม สรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยให้ชุ่มคอ  ยาปราบชมพูทวีป บรรเทาอาการคัดจมูก ภูมิแพ้อากาศ เป็นต้น
           ในส่วนการรับประทานอาหารหลังป่วยจากโควิด 19 ควรดูแลสุขภาพร่างกายด้วยการรับประทานอาหาร เครื่องดื่มจากพืชผักสมุนไพร โดยเน้น กลุ่มเครื่องเทศ เช่นหอม กระชาย ขิง ตะไคร้ กะเพรา พืชผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักขี้เหล็ก ผักเหลียง ยอดสะเดา มะระขี้นก ผักแพว มะขามป้อม หรือ ผักผลไม้หลากสี รวมทั้งเห็ด ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีน นำมาปรุงเป็นอาหาร หรือเครื่องดื่ม เพื่อรับประทานเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ซึ่งเมื่อรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง       
            “ยาสมุนไพรข้างต้นเป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติที่มีการจ่ายในคลินิกการแพทย์แผนไทย ในสถานพยาบาลของรัฐทั่วประเทศอยู่แล้ว ประชาชนจึงสามารถมั่นใจได้ถึงประสิทธิผลและความปลอดภัย และ หากผู้ป่วย มีข้อสงสัยการใช้ฟ้าทะลายโจร หรือมีอาการ Long COVID สามารถติดต่อโรงพยาบาลของรัฐที่มีคลินิกแพทย์แผนไทย ได้ทั่วประเทศ เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลรักษาได้อย่างปลอดภัย” นายแพทย์เทวัญ กล่าวทิ้งท้าย     
    
                ……………………………………………..……………16 พฤษภาคม 2567..............................................................