สธ. สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณี คลอดลูกตายปริศนาคาโรงพยาบาลห้วยคต

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีสามีร้องภรรยาคลอดลูกตายปริศนาคาโรงพยาบาลห้วยคต จ.อุทัยธานี เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย จากกรณีที่มีข่าวนายเกียรติศักดิ์ ไวกสิกรณ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 2 ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรห้วยคต เนื่องจากสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของนางสวัสดิ์ ไวกสิกรณ์ อายุ 34 ปี ภรรยา ซึ่งตั้งครรภ์ 9 เดือน มีลิ่มเลือดออกทางช่องคลอด ได้นำส่ง โรงพยาบาลห้วยคต เมื่อเช้าวันที่ 5 มกราคม 2552 แพทย์ให้นอนพักสังเกตอาการเพื่อรอคลอด ต่อมามีอาการช็อค หมดสติ แพทย์ได้ช่วยฟื้นคืนชีพ 2 ครั้ง ก่อนส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอุทัยธานี และเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2552 นั้น ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขมิได้นิ่งนอนใจ โดยในนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาลห้วยคต เพื่อให้ความกระจ่างแก่สามีและญาติผู้เสียชีวิต และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นได้รับรายงานว่า สาเหตุของการเสียชีวิตยังไม่ทราบชัดเจน ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่เดิม เช่น โรคหัวใจ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากการตั้งครรภ์ เช่น มีน้ำคร่ำรั่วเข้าสู่กระแสเลือดและอุดตันหลอดเลือด ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยทางการแพทย์ ไม่สามารถป้องกันได้ โดยจะสามารถยืนยันสาเหตุที่แท้จริงได้จากการผ่าศพชันสูตรเท่านั้น สำหรับประเด็นการส่งตัวผู้ป่วยที่ไม่ได้ส่งตัวผู้ป่วยหลังการปั๊มหัวใจทันทีนั้น เนื่องจากผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤต ในทางการแพทย์และตามมาตรฐานการส่งต่อ จะต้องดำเนินการช่วยฟื้นคืนชีพและรอให้อาการผู้ป่วยคงที่ก่อน เพื่อให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุดในระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาลอุทัยธานี ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 45 นาที ทางด้านนายแพทย์วิทยา ศุภรพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า ในวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานีและโรงพยาบาลห้วยคต เดินทางไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต เพื่อพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจกับสามีและญาติ ในเรื่องการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ซึ่งอาจเกิดจากน้ำคร่ำรั่วเข้าสู่กระแสเลือด หรือโรคหัวใจเฉียบพลัน เบื้องต้นได้มอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพจำนวนหนึ่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าชดเชยผู้ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ ตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยเร็วที่สุด ****************************** 7 มกราคม 2552