ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยช่วงฤดูหนาวแต่ละปี พบเด็กและผู้สูงอายุ ป่วยด้วยโรคปอดบวมจำนวนมาก ช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา พบป่วย 43,152 ราย เสียชีวิต 279 ราย ภาคอีสานแชมป์สูงสุด ป่วยปีละกว่า 14,000 ราย เตือนประชาชน โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ คนสูบบุหรี่จัด หรือเป็นโรคเอดส์ ให้รักษาร่างกายให้อบอุ่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากป่วยมีไข้สูง ไอมาก เจ็บหน้าอก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที วันนี้(10 ธันวาคม 2551) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางจุรีภรณ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ นายกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยหนาว และมอบผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ยาตำราหลวง เครื่องช่วยเดินสำหรับคนพิการ รวม 620 ชุด ที่หมู่บ้านขุนกลาง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นมาก โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสานในขณะนี้ อาจทำให้คนที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ เมื่ออยู่ในสภาพอากาศแห้งและเย็นจัด จะทำให้ป่วยเป็นโรคปอดบวมได้ง่าย ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่มีความรุนแรง อาจเกิดจากติดเชื้อโดยตรงหรือเป็นโรคแทรกซ้อนของไข้หวัด ติดต่อกันได้ทางไอจาม โดยเชื้อจะอยู่ในเสมหะ น้ำลาย หรือติดต่อกันโดยใช้ภาชนะ สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย โรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อย เด็กขาดสารอาหาร เด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด เช่น โรคหัวใจ เมื่อเป็นปอดบวมมักจะมีอาการรุนแรง จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา พบว่าแต่ละปีจะมีผู้ป่วยโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบกว่าแสนราย เสียชีวิตนับพันราย ในปี 2550 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคปอดบวม 142,250 ราย เสียชีวิต 1,043 ราย เฉพาะในช่วงฤดูหนาว 4 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2550 –กุมภาพันธ์ 2551 พบป่วย 43,152 ราย เสียชีวิต 279 ราย ภาคอีสานสูงสุดป่วย 14,683 ราย เสียชีวิต 35 ราย รองลงมาภาคกลางป่วย 11,961 ราย เสียชีวิต 111 ราย ภาคเหนือป่วย 9,712 ราย เสียชีวิต 108 ราย ภาคใต้ป่วย 6797 ราย เสียชีวิต 25 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยจะสูงสุดในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่หนาวเย็นที่สุด นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า อาการผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจะมีไข้สูง ไอมาก เจ็บหน้าอก หายใจหอบ มีเสมหะมาก มักจะเกิดตามหลังโรคไข้หวัด 2-3 วัน ในเด็กจะตัวร้อนจัด ถ้าเป็นมาก จะหายใจแรงจนซี่โครงบุ๋ม ดังนั้นหากเด็กมีอาการลักษณะนี้ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที หากรักษาช้า หรือได้รับยาไม่ถูกต้อง อาจมีโรคแทรกได้อีก เช่นมีหนองในเยื่อหุ้มปอด ปอดแฟบ ฝีในปอด สำหรับผู้ป่วยโรคนี้ ให้พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามดื่มน้ำให้มากๆ เพราะคนไข้จะเสียเหงื่อมาก และจะรับประทานอาหารไม่ค่อยได้ มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หากขาดน้ำจะทำให้เสมหะข้นเหนียว ทางด้านนายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาวปีที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ป่วยด้วยโรคปอดบวมกว่า 2,000 ราย เสียชีวิต 4 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก ในปีนี้พบผู้ป่วยโรคปอดบวมแล้ว 858 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต การป้องกันไม่ให้ป่วยด้วยโรคปอดบวม หมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าหลายชั้นให้ร่างกายอบอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีและไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย ถ้าเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่คนแออัด หมั่นล้างมือให้สะอาดภายหลังสัมผัสสิ่งของหรือผู้ป่วย โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากร่างกายอ่อนแอ การเสียชีวิตส่วนหนึ่งมาจากการได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที นอกจากนี้ในกลุ่มคนที่สูบบุหรี่จัดหรือเป็นโรคเอดส์ อาจป่วยด้วยโรคปอดบวมปีละหลายครั้ง ****************************** 10 ธันวาคม 2551


   
   


View 12    10/12/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ