สธ.จัดแถวข้าราชการเกือบ 180,000 อัตรา ลงล็อคตามพรบ.ข้าราชการพลเรือน 2551

กระทรวงสาธารณสุข จัดคนลงตำแหน่ง เรียบร้อย ทั้งหมดเกือบ 180,000 ตำแหน่ง ยุบรวมสายงานจากเดิม 114 สายงาน เหลือ 65 สายงาน ใน 4 ประเภท พร้อมก้าวสู่ระบบบริหารข้าราชการพลเรือนแนวใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้ที่จบปริญญาตรีทั้งหมด รวมทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร จัดอยู่ในประเภทวิชาการ ปลัดกระทรวง รองปลัด อธิบดี รองอธิบดี อยู่ในประเภทบริหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการร.พ.ทั่วไป ร.พ.ศูนย์ อยู่ในประเภทอำนวยการ แพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารการปรับเปลี่ยนระบบบริหารทรัพยากรบุคคล กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมแถลงข่าวการยกเลิกระบบซี สู่ประเภทตำแหน่งใหม่ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ.2551 ที่สำนักงาน ก.พ. จ.นนทบุรีเมื่อบ่ายวันนี้(9 ธันวาคม 2551)ว่า กฎหมายฉบับนี้ นับเป็นการปฏิรูประบบข้าราชการครั้งใหญ่ โดยยกเลิกการใช้ระดับตำแหน่ง หรือ ซี เปลี่ยนมาเป็นประเภทตามวิชาชีพและความชำนาญ เพื่อให้เป็นมืออาชีพและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ ประเภททั่วไป ประเภทวิชาการ ประเภทอำนวยการ และประเภทบริหาร แพทย์หญิงศิริพร กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข มีหน่วยงานในสังกัดทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อัตรากำลังข้าราชการทั้งหมด 176,958 อัตรา ใน 9 กรม ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 157,672 อัตรา กรมการแพทย์ 7,586 อัตรา กรมอนามัย 2,176 อัตรา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 1,028 อัตรา กรมสุขภาพจิต 3,415 อัตรา กรมควบคุมโรค 3,276 อัตรา กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย 177 อัตรา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 998 อัตรา และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 630 อัตรา ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการจัดบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งตาม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 เสร็จเรียบร้อย และส่งให้ ก.พ. ครบทั้งหมดแล้ว โดยการปรับปรุงกำหนดตำแหน่งจากสายงานเดิมที่มีอยู่ 144 สายงาน ยุบรวมเหลือ 65 สายงาน โดยกลุ่มที่สำเร็จระดับปริญญาตรีทั้งหมดเช่นแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข จัดอยู่ในประเภทวิชาการ ยกเว้นผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการกอง อยู่ในประเภทอำนวยการ ประเภทบริหารได้แก่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดฯ อธิบดี รองอธิบดี ส่วนที่เหลือจัดอยู่ในกลุ่มปฏิบัติการ แพทย์หญิงศิริพรกล่าวต่อว่า ตามพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะทำให้ระบบการบริหารงานบุคคลเป็นไปอย่างคล่องตัว แต่ละประเภทสามารถขึ้นเงินเดือนโดยยึดหลักความสามารถและปริมาณงาน และเพดานเงินเดือนก็สูงขึ้นกว่าเดิม ทำให้ข้าราชการมีขวัญกำลังใจดีขึ้น ************************************************ 9 ธันวาคม 2551