กรมอนามัย บูรณาการความร่วมมือกับสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทยคณะกรรมการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อร่วมกำหนดกรอบการพัฒนาและสร้างสุขภาวะปฐมภูมิด้วยการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีสำหรับประชาชน

          วานนี้ (29 มกราคม 2567) แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดการประชุม “บูรณาการความร่วมมือภาคีเครือข่ายการปฏิบัติการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมสู่การยกระดับระบบสุขภาวะที่ดีของประชาชน”ว่า การขับเคลื่อนงานสร้างสุขภาวะปฐมภูมิด้วยการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม จะเชื่อมโยงและสอดคล้องกับนโยบายกรมอนามัยในด้านการส่งเสริมให้เกิดเมืองสุขภาพดี เกิดเป็นนิเวศน์การทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายทั้งภายในและภายนอกภาคการสาธารณสุขในแบบสุขภาพหนึ่งเดียว ด้วยการใช้กลไกด้านการส่งเสริมสุขภาพ และการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับประชาชนเกิดเป็นเมืองและชุมชนเข้มแข็งภายใต้หลักการ 3D คือ มีการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีพฤติกรรมอนามัยดี ดังนั้น เพื่อการทำงานให้เห็นผลเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กรมอนามัยจึงได้ร่วมกับนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย เลขาธิการคณะกรรมการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพร่วมกันกำหนดแนวทางการ รูปแบบ กลไกการสนับสนุนภารกิจ การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมตามบทบาทภารกิจของภาคีเครือข่ายทุกระดับ ทั้งภาคการสาธารณสุข หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชนโดยมีเป้าหมายสำคัญคือ เพื่อจัดการปัจจัยเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนรวมทั้งเน้นการสร้าบทบาทความรับผิดชอบของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ทำการควบคุม กำกับ และจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมทั้งในสถานประกอบการ ครัวเรือนให้มีมาตรฐานมีสุขลักษณะดี ปลอดภัยต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้รับสิทธิพื้นฐานในการได้รับการบริการ การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมจากหน่วยงานภาครัฐ ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน    

           “ทั้งนี้ ทีมปฏิบัติการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมหรือทีม SEhRT ของกรมอนามัย มีนโยบายการพัฒนาและขยายเครือข่ายของทีมในทุกระดับทั้งจากหน่วยงานภาคการสาธารณสุข และหน่วยงานระดับท้องถิ่นส่งผลให้ประชาชนอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมในช่วงเกิดภัยพิบัติได้อย่างปลอดภัยไม่มีผลกระทบทางสุขภาพมีการทำงานร่วมกันในระดับพื้นที่ตามกลไกการทำงานแบบมีห่วงโซ่ในทุกมิติ และครอบคลุมการดูแลสุขภาพประชาชนทั้งในภาวะปกติ และภาวะวิกฤตจากภัยพิบัติสาธารณภัยและภัยสุขภาพ นำไปสู่ข้อเสนอการพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานด้านการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมใภาวะฉุกเฉิน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***

กรมอนามัย / 30 มกราคม 2567



   
   


View 171    30/01/2567   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ