สธ. ส่งยารักษาโรค 35,000 ชุด ช่วย 7 จังหวัดภาคใต้ แนะผู้ประสบภัยอย่าถ่ายหรือทิ้งขยะลงน้ำ

สาธารณสุขส่งยารักษาโรคช่วย 7 จังหวัดภาคใต้ประสบภัยน้ำท่วม 35,000 ชุด กำชับเจ้าหน้าที่และ อสม.ใน 7 จังหวัดภาคใต้ที่มีน้ำท่วม เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วม เช่น โรคอุจจาระร่วง ตาแดง โรคฉี่หนู อย่างใกล้ชิด แนะบ้านเรือนที่ส้วมใช้การไม่ได้ อย่าถ่ายหรือทิ้งขยะลงน้ำ เนื่องจากจะทำให้น้ำสกปรก เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่าย เผยรอบ 23 วัน พบเป็นโรคน้ำกัดเท้าร้อยละ 45 ไข้หวัดร้อยละ 31 เครียดนอนไม่หลับร้อยละ 11 ร.ต.อ. ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และตรัง ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัยที่สำคัญคือ การเจ็บป่วยจากโรคที่มากับน้ำท่วม ได้แก่ โรคน้ำกัดเท้าหรือเท้าเปื่อย ตาแดง ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ อุจจาระร่วง โรคฉี่หนู ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอสม. เฝ้าระวังโรคและออกให้คำแนะนำการป้องกันการเกิดโรคแก่ผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด จนถึงขณะนี้ยังไม่พบโรคระบาดเกิดขึ้นแต่อย่างใด สำหรับบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมและส้วมใช้การไม่ได้นั้น ต้องขอความร่วมมือประชาชนอย่าถ่ายอุจจาระลงน้ำ เนื่องจากจะเพิ่มความสกปรกให้น้ำที่ท่วมขังมากขึ้น และทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายในน้ำ อาจทำให้เกิดโรคระบาดได้ง่าย ยากต่อการควบคุมโรคมากขึ้น ขอให้ประชาชนทิ้งขยะหรือถ่ายอุจจาระลงในถุงดำ เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยและยาตำราหลวง รวม 35,000 ชุด ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า 10,000 ตลับ และถุงยังชีพ 300 ถุง โดยในวันพรุ่งนี้ ได้มอบหมายให้นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่จังหวัดสงขลาและพัทลุง ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในรอบ 23 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2551 กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จากโรงพยาบาลใน 7 จังหวัดที่ประสบภัย ออกให้บริการตรวจรักษาพยาบาลผู้ประสบภัย จำนวน 121 หน่วย โรคที่พบมากที่สุดคือ ผื่นคันและน้ำกัดเท้า ร้อยละ 45 ไข้หวัด ร้อยละ 31 และโรคเครียดนอนไม่หลับ ร้อยละ 11 ยังไม่มีรายใดมีอาการรุนแรง ทั้งนี้การดูแลสุขภาพจิตเพื่อลดความเครียดจากภาวะน้ำท่วม แนะนำประชาชนที่ประสบภัย ไม่ควรอยู่คนเดียว ควรพูดคุยกับคนใกล้ชิด เพื่อเป็นการผ่อนคลายระบายความเครียด ไม่คิดฟุ้งซ่าน พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ไม่ควรอดนอน เพราะยิ่งอดนอนมากเท่าใด ปัญหาความเครียดจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น *************************************** 2 ธันวาคม 2551