กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ติดเชื้อเอชไอวีเสี่ยงเป็นวัณโรคร้อยละ 70 ประชาชนทั่วไปเสี่ยงร้อยละ 5-10 เร่งสกัดกั้นการแพร่ระบาด ให้ทุกจังหวัดค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ทุกพื้นที่มารักษาโดยกินยาครบสูตร 6 เดือนฟรี มอบให้ มือปราบหรือมิสเตอร์ทีบีทุกจังหวัด ดูแล ประสานงานและติดตามผู้ป่วยกินยาครบ 180 วันให้หายขาด วันนี้(28 พฤศจิกายน 2551) ที่จังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันและควบคุมวัณโรค ปี 2552 ที่เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมอบป้ายมาตรฐานโรงอาหาร กรมอนามัย ตรวจเยี่ยมสถานพยาบาลและความสะอาดสิ่งแวดล้อมภายในเรือนจำ หลังจากนั้นเดินทางไปมอบนโยบายการควบคุมวัณโรคและโรคเรื้อรัง ให้อสม.และภาคีเครือข่ายสุขภาพ พร้อมมอบรางวัลอสม.ดีเด่น 11 สาขา ที่โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้นท์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า ขณะนี้วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่หวนกลับมาระบาดใหม่ เป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยวัณโรคทั้งสิ้น 125,000 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 90,000 ราย และประมาณ 40,000 รายเป็นผู้ป่วยเสมหะบวกอยู่ในระยะแพร่เชื้อ เสียชีวิตปีละ 13,000 ราย เนื่องจากวัณโรคเป็นโรคฉวยโอกาสที่เกิดในผู้ป่วยเอดส์สูงถึงร้อยละ 70 และเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตมากที่สุด ส่วนประชาชนทั่วไปเสี่ยงร้อยละ 5-10 จึงต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน หัวใจสำคัญที่สุดคือต้องรักษาผู้ป่วยให้หายขาดทุกราย ก็จะไม่มีแหล่งแพร่เชื้อโรคนี้ นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายให้ทุกจังหวัด ตั้งมือปราบวัณโรคหรือมิสเตอร์ทีบีเป็นผู้รับผิดชอบงานวัณโรค ประสานงาน เร่งค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในชุมชนแออัด ผู้ใช้แรงงาน เรือนจำ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคถุงลมปอดโป่งพองเรื้อรัง ผู้ติดเชื้อเอดส์ หรือสถานที่ที่มีระบบสุขาภิบาลไม่ดี และให้สถานพยาบาลทุกแห่งดูแลรักษาผู้ป่วยให้กินยาครบสูตร 100 เปอร์เซ็นต์ รักษาฟรี และจัดระบบติดตามผู้ป่วยวัณโรคให้กินยาอย่างสม่ำเสมอทุกวันจนครบ 180 วัน ซึ่งปัจจุบันนี้การรักษาผู้ป่วยวัณโรคใช้เวลาสั้นลงแค่ 6 เดือน แต่เดิมต้องใช้เวลานานถึง 1 ปี ทางด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ขณะนี้ จ.ร้อยเอ็ดมีประชากร 1,300,000 คน ได้ระดมอสม.ช่วยค้นหาผู้ป่วยวัณโรคทุกหมู่บ้านและชุมชน ในปี 2551 มีผู้ป่วยวัณโรค 1,834 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยวัณโรคที่มีเชื้อในเสมหะ สามารถแพร่กระจายไปติดคนอื่นได้ 834 ราย แนวโน้มมีผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานเพิ่มขึ้น จากปัญหากินยาไม่ครบสูตรจึงทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคในชุมชนต่อเนื่อง และติดคนในครอบครัวเดียวกัน ในปี 2552 จะเพิ่มการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำ ชุมชนแออัด โชเฟอร์ขับรถสาธารณะ สถานประกอบการที่มีลูกจ้างมากกว่า 10 คนขึ้นไป กลุ่มนักเรียนโรงเรียนประจำ และกลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และให้โรงพยาบาลทุกแห่งตั้งคลินิกวัณโรคทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอ จัดรณรงค์ทำความสะอาดเรือนจำ โรงแรม สถานีขนส่ง ห้องนอนนักเรียนโรงเรียนประจำ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ในเรือนจำร้อยเอ็ดมีผู้ต้องขัง 956 คน ได้จัดหน่วยแพทย์ พยาบาลหมุนเวียนไปตรวจรักษาโรค ตรวจเสมหะผู้ต้องขังรายใหม่ทุกรายและตรวจซ้ำทุก 6 เดือน ผลการตรวจค้นในปี 2551 พบร้อยละ 3 เป็นวัณโรคมาก่อน ร้อยละ 9 มีประวัติบุคคลใกล้ชิดป่วยเป็นวัณโรค พบผู้ป่วยในระยะแพร่เชื้อ 1 ราย และมีผู้สมัครใจตรวจเชื้อเอชไอวี 875 ราย ******************************** 28 พฤศจิกายน 2551


   
   


View 18    28/11/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ