ปลัด สธ. สั่งตั้งศูนย์ EOC รับมือ "อหิวาต์" พร้อมให้การสนับสนุนทีมช่วย "เมียนมา" ควบคุมป้องกันโรค เข้มเฝ้าระวังจุดเสี่ยงในไทย
- สำนักสารนิเทศ
- 118 View
- อ่านต่อ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คิกออฟฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก 1 ล้านโดส ใน 100 วันให้หญิงไทยอายุ 11 - 20 ปี ตามนโยบายมะเร็งครบวงจร โดยร่วมมือกับ สพฐ.ประเดิมฉีดกลุ่มนักเรียนหญิงในสถานศึกษา นำร่องที่โรงเรียนไทรน้อย จ.นนทบุรี พร้อมให้ความรู้มะเร็ง คัดกรองมะเร็งปากมดลูก พยาธิใบไม้ตับ มะเร็งท่อน้ำดี เอกซเรย์ปอด ส่วนผู้หญิงที่เป็นนักศึกษาและบุคคลทั่วไปเริ่มธันวาคมนี้
วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2566) ที่โรงเรียนไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะที่ปรึกษา พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข Dr.Jos Vandelaer ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์ และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันเปิดกิจกรรมความร่วมมือขับเคลื่อนนโยบายมะเร็งครบวงจร Kick Off การรณรงค์สร้างภูมิ HPV นักเรียนไทยสุขภาพดี ปลอดมะเร็ง “Save Our Children by 1 Million HPV Vaccines”
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2567 กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบาย “มะเร็งครบวงจร” ที่ครอบคลุมทั้งด้านการส่งเสริม ป้องกัน คัดกรอง วินิจฉัย รักษา และดูแลฟื้นฟูกายใจ โดยเฉพาะมะเร็งที่เป็นปัญหาสำคัญ 5 ชนิด ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันและตรวจคัดกรองความเสี่ยงได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง การตรวจปัสสาวะเพื่อคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับ การอัลตราซาวด์คัดกรองมะเร็งท่อน้ำดี และการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็งตับ เป็นต้น โดยการขับเคลื่อน Quick Win 100 วันแรก จะมีการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV ในหญิงไทยอายุ 11-20 ปี จำนวน 1 ล้านโดส เริ่มคิกออฟสำหรับนักเรียนหญิงในสถานศึกษาพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนในกลุ่มนักเรียน ให้มีภูมิคุ้มกัน ลดอาการป่วย และการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกในอนาคต สำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไปสามารถรับวัคซีน HPV ได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 เพื่อป้องกันมะเร็งในสตรีไทยตามสโลแกน “สวย เริด เชิด สู้มะเร็ง” หรือ “Women Power No Cancer”
“ขอเชิญชวนหญิงไทยอายุตั้งแต่ 11 – 20 ปีทุกคน เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV และประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง เข้ารับการตรวจคัดกรอง เช่น คัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองในประชาชนอายุ 30 ปีขึ้นไป การตรวจปัสสาวะหรืออัลตราซาวด์คัดกรองมะเร็งท่อน้ำดีในประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งหากพบว่าป่วยจะได้รับการรักษาทันท่วงที ช่วยลดการเสียชีวิต รวมถึงเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกคนและปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ” นพ.ชลน่านกล่าว
ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทำให้ประชากรสูญเสียการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และยังส่งผลต่อระบบสาธารณสุข รวมถึงระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การลดอัตราป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งต้องทำในทุกมิติ ตั้งแต่การป้องกันโรค ตรวจคัดกรอง พัฒนาวิธีการรักษา และการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง สำหรับการจัดกิจกรรมคิกออฟวันนี้ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้บริการฉีดวัคซีน HPV สำหรับนักเรียน พร้อมให้ความรู้เรื่องมะเร็งปากมดลูก สำหรับประชาชนทั่วไป จะมีบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเอง ในสตรีอายุ 30-60 ปี บริการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับด้วยการตรวจปัสสาวะ และตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคมะเร็งท่อน้ำดีด้วยวิธีอัลตราซาวด์ โดยใช้รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน รวมถึงมีบริการเอกซเรย์ตรวจคัดกรองมะเร็งปอด และบริการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงบริการฉีดวัคซีนและตรวจคัดกรองมะเร็งได้สะดวกยิ่งขึ้น ถือเป็นตัวอย่างการดำเนินงานและการนำร่องให้บริการในชุมชน
**************************** 8 พฤศจิกายน 2566